วีซ่าท่องเที่ยวอเมริกา (B1/B2 Visa)

ในวันนี้ เราจะมาพูดถึงประเทศมหาอำนาจอย่าง สหรัฐอเมริกา ที่ซึ่งคนไทยอย่างเราจะเดินทางเข้าประเทศเขาได้นั้น จะต้องทำการยื่นขอวีซ่าท่องเที่ยวอเมริกาเสียก่อน หรือ เราจะพุดกันติดปากบ่อยๆว่า B1/B2 Visa นั้นเองครับ ซึ่งหนึ่งในประเทศที่เป็นจุดหมายปลายทางหลักของใครหลายๆคนที่ฝันอยากจะไปเยือนสักครั้งในชีวิต ไม่ว่าจะไปเพื่อท่องเที่ยว เยี่ยมเยียนญาติพี่น้อง สายแฟชั่น ช็อปปิ้งเดินชิว ในย่าน 5Avenue New York , สายคอหนัง Hollywood , California หรือ Las Vegas ,Nevada อย่างแรกที่เราจะต้องมีเลยก็คือ วีซ่าท่องเที่ยว ที่จะพาเรานั้นสามารถเข้าประเทศสหรัฐอเมริกาได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย แต่ใครๆก็บอกว่าวีซ่าอเมริกานั้นขอยาก อาจจะทำให้ความฝันของใครหลายๆคนสลายได้ ทั้งนี้ถ้าเรารู้จักวีซ่าท่องเที่ยวอเมริกาดีพอก็จะสมารถพลิกฝันให้เป็นจริงได้ไม่ยาก

ดังนั้นแล้ว เราจึงอยากจะพาคุณมาตามติดเจาะลึกทุกประเด็นเกี่ยวกับวีซ่าท่องเที่ยว อเมริกาตามหัวข้อด้านล่างนี้กันได้เลย แล้วคุณจะไม่ผิดหวังแน่นอนครับ

วีซ่าท่องเที่ยวอเมริกาคืออะไร

วีซ่าท่องเที่ยวอเมริกา คือวีซ่าที่ใช้เพื่อการท่องเที่ยว พักผ่อน ในระยะเวลาที่ไม่ยาวนานมาก แต่ถ้าได้รับอนุมติวีซ่าท่องเที่ยวของอเมริกาแล้ว ส่วนมากจะได้แบบ 10 ปี เดินทางได้หลายครั้ง ซึ่งในแต่ละครั้งอาจจะอยู่ได้นานเท่าไหร่นั้น จะขึ้นอยู่กับดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง ณ ตอนที่เดินทางเข้าประเทศสหรัฐอเมริกาว่าจะแสตมป์ให้เท่าไหร่ แต่โดยส่วนมากแล้วถ้าเดินทางเข้าออกครั้งแรก หรือเดินทางเข้าออกไม่บ่อยก็จะได้ 3-6 เดือน สำหรับคนไทยที่จะเดินทางไปเที่ยวที่อเมริกานั้น จำเป็นที่จะต้องขอวีซ่าท่องเที่ยวก่อน ซึ่งโดยปกติแล้ววีซ่าท่องเที่ยวหรือติดต่อธุรกิจนั้นจะจัดอยู่ในประเภทวีซ่าชั่วคราวประเภท B โดยแบ่งเป็น B-1 วีซ่าเพื่อธุรกิจ และ B-2 วีซ่าสำหรับการท่องเที่ยว ทั้งนี้มีวีซ่า 2 แบบนี้จะออกเป็นวีซ่าเดียวกันให้เลยก็คือ (B1/B2)

วีซ่าท่องเที่ยวอเมริกายากไหม?

สำหรับวีซ่าท่องเที่ยวอเมริกา ถือว่าติดอันดับต้นๆหรืออันดับแรกๆที่ขอผ่านยาก แต่ถ้าได้มาครอบครองแล้วส่วนมากจะได้แบบ 10 ปี ซึ่งสามารถเดินทางเข้าออกได้หลายครั้ง แต่ทางเจ้าหน้าที่จะค่อนข้างเคร่งครัดมากเป็นพิเศษ ซึ่งวีซ่าจะผ่านหรือไม่ผ่าน จะขึ้นอยู่กับคุณสมบัติผู้สมัครเป็นหลัก โดยเจ้าหน้าที่จะพิจารณาจากหลายปัจจัย เช่น หน้าที่การงาน การเงิน วัตถุประสงค์ในการเดินทางที่แท้จริง ประวัติการเดินทางไปต่างประเทศก่อนหน้านี้ เป็นต้น เพราะเจ้าหน้าที่จะมองด้วยว่า คุณจะไปท่องเที่ยวจริงๆแล้วกลับมาตามเวลาที่กำหนด โดยไม่โดวีซ่าหรือสร้างความเสียหายให้แก่ประเทศของเขา เนื่องจากมีการโดดวีซ่าเยอะ คือไปแล้วไม่กลับมาเมืองไทยอีกเลย ซึ่งตรงนี้ก็เป็นส่วนที่ทำให้วีซ่าอเมริกานั้น ยากขึ้นนั้นเอง

ใช้เวลาดำเนินการนานไหมแล้วจะทราบผลได้อย่างไร

วีซ่าท่องเที่ยวอเมริกานั้นจะมีการเข้าไปสัมภาษณ์กับเจ้าหน้าที่ที่สถานทูตอเมริกาโดยตรงโดยปกติแล้วหากวีซ่าผ่านเจ้าหน้าที่จะเก็บพาสปอร์ตของเราไว้ และทำการส่งไปรษณีย์คืนให้หลัง แต่ถ้าโดนปฏิเสธก็จะรู้ผลภายในวันนั้นเลย โดยเจ้าหน้าที่จะปฏิเสธและคืนพาสปอร์ตให้เราหลังจบการสัมภาษณ์

ปัจจัยอะไรบ้างที่ทำให้วีซ่าท่องเที่ยวถูกปฏิเสธ

มีหลายปัจจัยที่ทำให้วีซ่าท่องเที่ยวถูกปฏิเสธแต่ส่วนใหญ่แล้วนั้นจะขึ้นอยู่กับสถานะของผู้สมัครเอง เช่น หน้าที่การงาน ไม่เคยเดินทางไปต่างประเทศมาก่อน เงินสะสมไม่เพียงพอ มีแฟนเป็นคนอเมริกันและต้องการไปเยี่ยมแฟนที่อเมริกา (เนื่องจากประเทศอเมริกาไม่มีวีซ่าประเภทเยี่ยมเยือนโดยตรง เจ้าหน้าที่อาจจะคิดได้ว่าเราจะไปอาศัยอยู่กับแฟน จดทะเบียนสมรส และอยู่ต่อยาวก็เป็นได้ ซึ่งเป็นการใช้ผิดวัตถุประสงค์ของวีซ่าท่องเที่ยว เจ้าหน้าที่จะให้คุณเปลี่ยนเป็นสมัครวีซ่า K-1 หรือวีซ่าคู่หมั้นแทน) อ้างอิงกับญาติที่อยู่ที่อเมริกาที่มีประวัติไม่ดีมาก่อน เช่น ญาติเคยอยู่เกินระยะเวลาที่กำหนด หรืออยู่อย่างผิดกฎหมาย เป็นต้น ซึ่งทั้งหมดนี้จะขึ้นอยู่กับดุลพินิจพิจารณาของเจ้าหน้าที่

มีเงินเก็บไม่พอใช้สปอนเซอร์ได้ไหม

ในกรณีที่ผู้สมัครไม่มีเงินเก็บ หรือ มีแต่ไม่เพียงพอ ผู้สมัครสามารถใช้สปอนเซอร์ได้ ซึ่งผู้ที่จะเป็นสปอนเซอร์ให้ได้นั้น ควรจะมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดหรือคนในครอบครัวเดียวกัน ที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย ไม่ใช่ในประเทศสหรัฐอเมริกา เช่น พ่อ แม่ พี่ น้อง ปู่ ย่า ตา ยาย ลุง ป้า น้า อา เป็นต้น แต่ในทางที่ดีที่สุดสำหรับผู้สมัครที่ทำงานแล้วควรที่จะรับรองค่าใช้จ่ายด้วยตัวเองจะเหมาะสมกว่า แต่ในกรณีที่ยังเป็นนักศึกษาสามารถให้ผู้ปกครองหรือคนในครอบครัวตามที่กล่าวข้างต้นรับรองได้

ค่าธรรมเนียมวีซ่าเท่าไหร่

ค่าธรรมเนียม วีซ่าท่องเที่ยวนั้นอยู่ที่ 4,960 บาท อาจจะผันแปรตามอัตราการแลกเปลี่ยน

คุณสมบัติเบื้องต้นของผู้สมัครวีซ่าท่องเที่ยวอเมริกาควรมีอะไรบ้าง

ยื่นคำร้องออนไลน์

• โดยการกรอกแบบฟอร์ม DS-160 ที่เว็บไซต์  (https://ceac.state.gov/genniv/) โดยเลือกสถานที่ยื่นคำร้องวีซ่าสำหรับประเทศไทยนั้นจะมีให้เลือก 2 ที่ คือ กรุงเทพฯ และ เชียงใหม่ จากนั้นก็สามารถที่จะเริ่มต้นกรอกแบบฟอร์มได้เลย
• ระบบจะมีหมายเลขยืนยันแบบฟอร์ม หรือ Application ID ให้โดยอัตโนมัติ เราต้องจดหมายเลขนี้ไว้เพราะหมายเลขนี้สามารถใช้ยืนยันความปลอดภัยเพื่ออ้างอิงความเป็นเจ้าของแบบฟอร์มในกรณีที่เราต้องการกรอกข้อมูลต่อในภายหลัง ฟอร์มจะเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด ดังนั้นแล้วจึงต้องทำความเข้าใจในคำถามและตอบให้ถูกต้อง ตรวจทานทุกครั้งก่อนที่จะยื่น เพราะถ้าเรายื่นไปแล้วนั้นจะไม่สามารถกลับเข้ามาแก้ไขได้อีก 
• หลังจากที่เรากรอกแบบฟอร์มเรียบร้อยแล้ว จะต้องอัพโหลดรูปถ่ายหน้าตรงพื้นหลังสีขาวโดยต้องปรับให้มีขนาดตรงตามที่สถานทุตอเมริกากำหนดไว้
• เมื่อกรอกฟอร์มและอัพโหลดรูปภาพเสร็จแล้ว ระบบจะแสดงหน้าต่างให้ตรวจสอบข้อมูลอีกครั้งและจะเข้าสู่หน้ายืนยันเพื่อพิมพ์เอกสารยืนยันไปยื่นในวันสัมภาษณ์

การชำระค่าธรรมเนียม

1.หากไม่เคยยื่นวีซ่าอเมริกามาก่อน คุณจะต้องมีบัญชีโดยการสร้างใหม่ที่ (https://www.ustraveldocs.com/th_th/th-niv-paymentinfo.asp)
โดยเมื่อสร้างบัญชีเสร็จแล้วก็ให้เลือกหัวข้อ การสมัครขอวีซ่าใหม่/นัดสัมภาษณ์ และกรอกข้อมูลทั้งหมดไปจนถึงการชำระเงิน
2.การชำระค่าธรรมเนียมวีซ่าอเมริกามีอยู่ 2 วิธี นั้นก็คือ 
a.จ่ายเงินสด สามารถจ่ายได้ที่ธนาคารกรุงศรีอยุธยาได้ทุกสาขา โดยใช้ใบนำเงินฝากที่เราพิมพ์จากระบบออนไลน์ที่มีเลขอ้างอิงเพื่อยืนชำระเงิน และเก็บใบนำฝากส่วนของลูกค้าที่ได้รับตราประทับจากธนาคารไว้เพื่อเป็นหลักฐานยื่นใบวันสัมภาษณ์ด้วย
b.โอนเงินอิเล็กทรอนิกส์ด้วยระบบ EFT ซึ่งทางเราขอไม่แนะนำวิธีนี้เพราะจะยุ่งยาก เนื่องจากธนาคารบางแห่งยังไม่มีการรองรับ และต้องรอถึง 2 วันทำการ เพื่อจะให้ระบบตรวจสอบ และ ยืนยันการโอนเงิน
3.เมื่อชำระเงินเสร็จแล้วให้รอจนถึงเที่ยงของวันถัดไป ระบบจะแสดงเลขที่ใบเสร็จรับเงินของเรา จากนั้นเราจึงจะทำการนัดหมายสัมภาษณ์ได้ โดยเลือกวันตามแต่สะดวก

เอกสารการขอวีซ่าท่องเที่ยวอเมริกาต้องมีอะไรบ้าง

เอกสารในการขอวีซ่าท่องเที่ยวอเมริกานั้นเบื้องต้นนั้นควรจะต้องเป็นตัวจริงทั้งหมด โดยเราจะต้องแยกเป็นเอกสารสำคัญและเอกสารอื่นๆดังนี้ 
1.เอกสารสำคัญในการขอวีซ่า

• หนังสือเดินทาง ของเราทุกเล่มที่มี
• ใบยืนยันของแบบฟอร์ม DS-160 ที่เรากรอกไปก่อนหน้านี้
• ใบนัดสัมภาษณ์
• ใบเสร็จค่าธรรมเนียม
• รูปถ่าย ขนาด 2x2 นิ้ว หน้าตรง พื้นหลังขาว ห้ามใส่แว่นตาและควรเปิดหน้า

• เอกสารส่วนตัวเช่น บัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน ใบเปลี่ยนชื่อ ใบเปลี่ยนนามสกุล ทะเบียนสมรส ใบหย่า ใบเกิด และหนังสือยินยอมให้ผู้เยาว์เดินทางไปต่างประเทศ (ในกรณีที่ยังเป็นผู้เยาว์อยู่)
• เอกสารการเรียน (ใบกรณีที่ยังเป็นนักเรียน/นักศึกษา) เช่นหนังสือรับรองการเป็นนักเรียนหรือนักศึกษาใบเกรด
• เอกสารการทำงาน (ในกรณีทำงานแล้ว) เช่นหนังสือรับรองการทำงาน ซึ่งออกไม่เกิน 1 เดือน สลิปเงินเดือนย้อนหลัง 3 เดือน ในกรณีที่เป็นเจ้าของธุรกิจให้แสดงหนังสือรับรองบริษัทที่คัดมาจาก DBD ไม่เกิน 3 เดือน หรือทะเบียนการค้า
• เอกสารทางการเงิน เช่น Bank Statement ย้อนหลัง 6 เดือนและ Bang Guarantee ถ้าหากว่ามีสปอนเซอร์ให้ขอ Bank Statement ย้อนหลัง 6 เดือน และ Bank Guarantee ของสปอนเซอร์ด้วยเช่นกัน ทั้งนี้เอกสารทั้ง 2 อย่างนั้นควรจะออกเป็นภาษาอังกฤษ
• แผนการเดินทาง เช่น ทริปท่องเที่ยวที่เราได้แพลนไวคร่าวๆ ว่าช่วงที่อยู่ในอเมริกานั้นเราเองจะไปเที่ยวที่ไหนบ้าง พักที่ใดบ้าง โดยทั้งหมดจะต้องเป็นภาษาอังกฤษ

สำหรับผู้ที่สนใจจะเดินทางไปยังประเทศสหรัฐอเมริกา โดยวีซ่าท่องเที่ยว ควรจะทำการศึกษาข้อมูลต่างๆจนละเอียดก่อน ทางWebsite เรานั้นได้รวบรวมข้อมูลรายชื่อบริษัทต่างๆที่ให้บริการในด้านวีซ่า คุณสามารถเข้าไปยัง Website ของเราเพื่อทำการสอบถามข้อมูลการให้บริการต่างๆ จากบริษัทที่คุณสนใจได้โดยตรงครับ