ในธุรกิจขนส่งอาหาร ความปลอดภัยและคุณภาพของอาหารเป็นหัวใจสำคัญที่ไม่อาจมองข้ามได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญกับสุขภาพ ความสดใหม่ และกระบวนการจัดการที่ได้มาตรฐานมากยิ่งขึ้น การรักษาคุณภาพของอาหารตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทางจึงกลายเป็นเรื่องที่ท้าทาย โดยเฉพาะในขั้นตอนการขนส่ง ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่อาหารมีความเสี่ยงต่อการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ สภาพแวดล้อม และการปนเปื้อนต่าง ๆ
การควบคุมอุณหภูมิอย่างเหมาะสม จึงเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยป้องกันการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียที่อาจก่อให้เกิดโรค ลดโอกาสการเน่าเสียของอาหาร และยังช่วยรักษารสชาติ สี กลิ่น และคุณค่าทางโภชนาการของอาหารไว้ได้อย่างครบถ้วน โดยเฉพาะอาหารประเภทเนื้อสัตว์ อาหารทะเล ผลิตภัณฑ์นม และอาหารปรุงสำเร็จที่มีความไวต่ออุณหภูมิสูง การใช้ระบบขนส่งที่มีการควบคุมอุณหภูมิ (Cold Chain Logistics) อย่างเหมาะสม เช่น การใช้รถห้องเย็นหรือกล่องเก็บความเย็น จึงกลายเป็นมาตรฐานสำคัญที่ผู้ประกอบการจำเป็นต้องลงทุนและให้ความใส่ใจ

นอกจากนี้ ยังต้องมีการตรวจสอบและติดตามอุณหภูมิอย่างสม่ำเสมอในระหว่างการขนส่ง เพื่อให้มั่นใจว่าอุณหภูมิยังอยู่ในช่วงที่เหมาะสมตลอดระยะเวลาการเดินทาง การใช้เทคโนโลยี เช่น เซ็นเซอร์อัจฉริยะหรือระบบ GPS ที่สามารถรายงานสภาพอุณหภูมิแบบเรียลไทม์ ก็ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความน่าเชื่อถือในการจัดการระบบโลจิสติกส์ได้มากยิ่งขึ้น
อุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับการเก็บอาหารแต่ละประเภท
1. อาหารสดจากสัตว์ (เนื้อวัว เนื้อหมู เนื้อไก่ ปลาสด)
- อุณหภูมิที่ควรเก็บ: 0°C ถึง 4°C
- คำแนะนำ: ควรเก็บในตู้เย็นหรือรถขนส่งที่มีระบบควบคุมอุณหภูมิที่เสถียร ตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่มีจุดเย็นจัดเกินไปจนทำให้อาหารเกิดน้ำแข็ง
2. อาหารแช่แข็ง (เช่น อาหารทะเลแช่แข็ง เนื้อสัตว์แช่แข็ง)
- อุณหภูมิที่ควรเก็บ: -18°C หรือต่ำกว่า
- คำแนะนำ: ควรรักษาสภาพแช่แข็งตลอดการขนส่ง ห้ามละลายน้ำแข็งแล้วแช่แข็งใหม่ เพราะจะทำให้คุณภาพอาหารลดลงและเสี่ยงต่อเชื้อโรค
3. ผลิตภัณฑ์นม (นมสด โยเกิร์ต ชีส)
- อุณหภูมิที่ควรเก็บ: 1°C ถึง 4°C
- คำแนะนำ: หลีกเลี่ยงการเก็บในที่ที่มีอุณหภูมิเปลี่ยนแปลงบ่อย เพราะจะส่งผลต่อรสชาติและความปลอดภัย

4. อาหารพร้อมรับประทาน (อาหารปรุงสำเร็จ เบเกอรี่ ไส้กรอก)
- อุณหภูมิที่ควรเก็บ: 1°C ถึง 5°C สำหรับอาหารเย็น / 60°C ขึ้นไป สำหรับอาหารร้อน
- คำแนะนำ: หากเป็นอาหารร้อน ควรรักษาอุณหภูมิอย่างต่อเนื่องเพื่อหลีกเลี่ยง “เขตอันตราย” (Danger Zone) ที่แบคทีเรียเติบโตง่าย (5°C–60°C)

5. ผักและผลไม้สด
- อุณหภูมิที่ควรเก็บ: 5°C ถึง 10°C (ขึ้นอยู่กับชนิด)
- คำแนะนำ: บางชนิดควรหลีกเลี่ยงการแช่เย็น (เช่น กล้วย มะม่วง) เพราะจะทำให้เกิดรอยช้ำหรือลดคุณภาพ
6. อาหารแห้ง (ข้าวสาร พืชตระกูลถั่ว เครื่องเทศ)
- อุณหภูมิที่ควรเก็บ: 15°C ถึง 25°C ในที่แห้งและไม่มีความชื้น
- คำแนะนำ: ต้องเก็บในภาชนะปิดสนิท ป้องกันแมลงและเชื้อรา
ประเภทของบรรจุภัณฑ์ควบคุมอุณหภูมิ
1. กล่องเก็บความเย็น (Insulated Boxes)
ใช้วัสดุที่มีคุณสมบัติเป็นฉนวน เช่น โฟมโพลีสไตรีน (EPS), โฟมโพลียูรีเทน (PU) หรือวัสดุรีไซเคิลที่มีคุณสมบัติกันความร้อน เพื่อรักษาอุณหภูมิภายในให้เย็นอยู่เสมอ เหมาะกับการขนส่งอาหารที่ใช้เวลาไม่นาน เช่น บริการเดลิเวอรี่อาหารภายในเมือง
2. กล่องพร้อมเจลเย็น/น้ำแข็งแห้ง (Cold Packs & Dry Ice)
นิยมใช้ร่วมกับกล่องเก็บความเย็น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาอุณหภูมิ โดยเจลเย็นจะเหมาะกับอุณหภูมิ 0–8°C ส่วน dry ice เหมาะกับอาหารแช่แข็งที่ต้องการอุณหภูมิต่ำกว่าศูนย์องศาเซลเซียส
3. กล่องอัจฉริยะ (Smart Packaging)
บรรจุภัณฑ์ที่มาพร้อมเซ็นเซอร์ตรวจจับอุณหภูมิ หรือ Time-Temperature Indicators (TTIs) ซึ่งสามารถแสดงการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิระหว่างการขนส่ง ช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถติดตามและควบคุมความปลอดภัยของอาหารได้แบบเรียลไทม์
4. บรรจุภัณฑ์สูญญากาศและ Modified Atmosphere Packaging (MAP)
แม้จะไม่ใช่การควบคุมอุณหภูิโดยตรง แต่สามารถยืดอายุอาหารได้โดยการลดการสัมผัสอากาศ และใช้ร่วมกับการควบคุมอุณหภูมิเพื่อผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น
การควบคุมอุณหภูมิในการเก็บและขนส่งอาหารไม่ใช่เพียงเพื่อรักษาคุณภาพ แต่ยังเป็นเรื่องของความปลอดภัยต่อสุขภาพของผู้บริโภคโดยตรง สำหรับธุรกิจขนส่งอาหาร การลงทุนในระบบขนส่งเย็นและการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นแก่ลูกค้า และสร้างความยั่งยืนให้กับธุรกิจในระยะยาว
บริษัท โคโนอิเกะ คูล โลจิสติกส์ (ประเทศไทย) จำกัด มีการบริการคลังสินค้าและขนส่งควบคุมอุณหภูมิระดับพรีเมียม ขนส่งเหมาเที่ยว เหมาคัน ไปทั่วไทย! และขนส่งภายในประเทศ มีการรองรับสินค้าหลากหลายประเภทตั้งแต่อาหารสด แช่แข็ง แช่เย็น สินค้าทั่วไป จนถึงสินค้าที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ
การขนส่งแบบควบคุมอุณหภูมิมีให้บริการตั้งแต่ -18 ° C ถึง + 18 ° C อีกทั้งรถขนส่งมีให้บริการตั้งแต่รถ 4 ล้อ 6 ล้อ 10 ล้อ ไปจนถึงรถ 18 ล้อ ที่พร้อมให้บริการทั้งงานขนส่งและกระจายสินค้าอย่างมีประสิทธิภาพ ตรงเวลา ทำให้มั่นใจคุณภาพของการขนส่งได้ทุกเที่ยว

สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ทางโทรศัพท์ 02-337-3013
Sales Department: 063-269-0135 คุณสมคิด
Sales Department: 061-393-7998 คุณมินนี่
Sales Department: 063-269-0136 สายป่าน
หรือ Line id: @495apobz และ อีเมล sa@kclt.konoike.net
Website Profile: บริษัท โคโนอิเกะ คูล โลจิสติกส์ (ประเทศไทย) จำกัด