ในอดีตเรามีวิธีทำการตลาดแบบดั้งเดิมหลากหลายช่องทาง เช่น การส่งโบรชัวร์หรืออีเมล การให้พนักงานขายโทรเข้าไปนำเสนอสินค้า หรือแม้แต่การเข้าร่วมงานเอ็กซ์โปฯ ต่าง ๆ แต่เมื่อเวลาผ่านไปกลยุทธ์ในการทำการตลาดแบบดั้งเดิมก็เปลี่ยนเป็นการตลาดดิจิทัล (Digital Marketing) หรือที่เรียกว่าการตลาดออนไลน์ เป็นวิธีการส่งเสริมสินค้าหรือบริการของคุณผ่านช่องทางออนไลน์ เช่น Google เว็บไซต์ โซเชียลมีเดีย อีเมล และแอพพลิเคชั่นบนมือถือ ทำให้ปัจจุบันธุรกิจ B2B ต้องพึ่งพาการตลาดดิจิทัลแทนการโปรโมทแบบเดิม โดยมีวิธีการทำการตลาดมากมาย แต่วันนี้เราจะเลือกวิธีที่ตอบโจทย์สำหรับธุรกิจ B2B มากที่สุดมาแนะนำคุณโดยเฉพาะ
1.การทำ SEO (Search Engine Optimisation)
คือการทำเว็บไซต์ให้มีประสิทธิภาพ และรองรับการติดอันดับบน Google นั่นคือการเขียนเนื้อหาที่มีคุณภาพ และใส่คีย์เวิร์ดลงไปในหน้าหลักของเว็บไซต์ ซึ่งประกอบไปด้วยการเขียนเนื้อหาที่มีคุณภาพ และใส่คีย์เวิร์ดลงไปในหน้าหลักของเว็บไซต์ รวมถึงการสร้าง Backlink กลับมายังหน้าที่ต้องการ วิธีนี้จะทำให้เว็บไซต์ของคุณมีคนเข้ามาชมมากขึ้น และทำให้ยอดขายของธุรกิจคุณเพิ่มมากขึ้น
2.สร้างเนื้อหาที่เป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้งาน
เช่น การทำ Content Marketing หรือการเขียนบล็อก เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่มีแนวโน้มสนใจในเนื้อหาเฉพาะทางที่เราเขียน ซึ่งวิธีการนี้ไม่ใช่แค่ช่วยสร้างภาพลักษณ์ความเป็นผู้เชี่ยวชาญของเราเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังสามารถช่วยในเรื่องของการ Cross-sell ให้ลูกค้าสนใจสินค้า หรือธุรกิจของคุณอีกด้วย
3.ทำ Local SEO โดยใช้ Google My Business
เพื่อช่วยให้ธุรกิจของคุณติดอันดับบน Google ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างมากหากต้องการจับกลุ่มลูกค้าในพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่ง เช่น หากคุณทำธุรกิจร้านอาหารหรือคาเฟ่ เวลาที่ลูกค้าออกมาท่องเที่ยวแล้วอยากจะแวะรับประทานอาหารหรือกาแฟ ก็มักจะค้นหาคำว่า “ร้านอาหาร ใกล้ฉัน” หรือ “คาเฟ่ใกล้ฉัน” แล้วหน้าผลการค้นหาของลูกค้าที่อยู่ใกล้เคียงกับคุณก็จะปรากฏชื่อร้านคุณขึ้นมา
4.E-mail Marketing
แม้ว่าการส่งอีเมลจะเป็นช่องทางทำการตลาดแบบดั้งเดิม แต่การส่งอีเมลเป็นการประชาสัมพันธ์ที่มีประสิทธิภาพ และสามารถเข้าถึงลูกค้าได้ ‘ตรง’ ที่สุด แต่สำหรับการทำการตลาดในกลุ่มธุรกิจ B2B ปัจจุบันก็ต้องใช้กลยุทธ์ที่ดีขึ้นกว่าการส่งอีเมลแนะนำธรรมดา ๆ ซึ่งเราสามารถทำได้โดย
- ตั้งชื่อเรื่อง และเขียนเนื้อหาบรรทัดแรกให้ผู้อ่านเข้าใจถึงจุดประสงค์ และสามารถสื่อความหมายได้ครบถ้วน และใช้รูปภาพที่สามารถเพียงแค่มองครั้งเดียวก็เข้าใจได้ หรือดึงดูดให้อ่านต่อ เพราะปกติแล้วคนเรามักจะไม่ค่อยเสียเวลาอ่านอีเมลการตลาดเท่าไร
- ควรปรับอีเมลให้มีความเฉพาะเจาะจงกับธุรกิจที่ต้องการส่งไปหามากที่สุด เช่น คำขึ้นต้น เนื้อหาด้านในที่มีการพูดถึงปัญหาหรือแนวทางการแก้ไขที่ตรงจุดจริง ๆ จะช่วยให้ลูกค้าแต่ละรายอ่านแล้วรู้สึกได้ถึงความใส่ใจ
ธุรกิจแบบ B2B นั้นคือธุรกิจที่ทำการค้าระหว่างธุรกิจด้วยกัน ซึ่งจะมีปริมาณการซื้อขายที่ค่อนข้างสูง โดยธุรกิจแบบ B2B จะมีการใช้ช่องทางการตลาดแบบออฟไลน์เป็นหลัก แต่ในปัจจุบันการตลาดออนไลน์ไม่ได้เป็นเพียงการตลาดทางเลือกสำหรับธุรกิจ B2B เพียงเท่านั้น ดังนั้นหากคุณนำข้อมูลเหล่านี้ไปปรับใช้กับธุรกิจของคุณก็จะสามารถเป็นอีกช่องทางหนึ่งในการสร้างธุรกิจให้มีความน่าเชื่อถือ เข้าถึงได้ง่าย และยังสามารถเพิ่มยอดขายให้กับธุรกิจของคุณได้อีกด้วย
ที่มา: www.primal.co.th