ในปัจจุบันนี้ ระบบขนส่งสาธารณะที่มีความหนาแน่นเป็นอย่างมาก และค่าใช้จ่ายในการเดินทางที่สูงขึ้นเรื่อยๆ แต่ถ้าหากไม่อยากไปเบียดกับใคร ที่เป็นสาเหตุให้คุณเครียดเป็นอย่างมากนั้น หากมีงบมากพอแต่ยังไม่ถึงขั้นซื้อรถเป็นของตัวเอง บริการ Car Sharing จัดได้ว่าเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดในขณะนี้ แต่กลายเป็นสิ่งที่แปลกใหม่มากสำหรับประเทศไทย ซึ่งรูปแบบคล้ายคลึงกับรถเช่าเป็นอย่างมาก ซึ่งในวันนี้เราจะมาอธิบายให้ละเอียดคุณได้เข้าใจยิ่งขึ้นครับ
Car Sharing คืออะไร
เป็นธุรกิจให้บริการรถเช่าระยะสั้นที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องทั่วโลก โดยการให้บริการในรูปแบบ Business to Consumer เติบโต 39% ต่อปี วัตถุประสงค์ของการให้บริการ car sharing จะมุ่งเน้นไปสู่การลดปริมาณการใช้รถยนต์บนท้องถนน มีความแตกต่างกับ "รถเช่า" เนื่องจากได้รวบรูปแบบการบริการให้เช่ารถแบบปัจเจกที่เข้าถึงง่ายกว่า โดยธุรกิจมีรูปแบบการให้บริการ 2 ประเภท คือ
1) รูปแบบ Peer to Peer (P2P) ที่จะมีการจับคู่ระหว่างเจ้าของรถที่แท้จริง ที่หวังจะหารายได้เสริมจากการปล่อยให้เช่ารถกับบุคคลที่อยากเช่ารถ เพื่อให้รถยนต์มักถูกจอดทิ้งไว้ ได้ออกวิ่งหรือให้เครื่องยนต์ได้มีการทำงาน อารมณ์เหมือน Air BNB ก็ไม่ผิด
2) รูปแบบ Business to Consumer (B2C) ที่พัฒนามาจากรูปแบบแรก เป็นการให้บริการรถเช่าระยะสั้นแก่สมาชิก โดยรถที่ให้เช่าเป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัท ไม่ใช่รถส่วนบุคคล ซึ่งรูปแบบนี้จะมีจุดแข็งในการให้บริการในลักษณะ one way trip สมาชิกสามารถใช้บริการ ณ จุดที่สะดวกและไม่จำเป็นต้องนำรถมาจอดคืนที่เดิม เนื่องจากมีบริการจุดจอดรถจำนวนมาก
ประเทศที่ใช้บริการ Car Sharing มากที่สุด
- เอเชีย-แปซิฟิก ด้วยความบริเวณภูมิภาคนี้ จะมีประชากรที่มีกำลังทรัพย์สูงในการใช้จ่าย และพื้นที่ที่จำกัดจากความหนาแน่นของเมืองใหญ่ๆ เป็นสำคัญ ทำให้มีรูปแบบ "รถเช่าร่วม" กันเป็นจำนวนมาก อาทิ เช่น 2 ประเทศในเขตภูมิภาค ASEAN ที่เจริญที่สุด ทั้ง มาเลเซีย กับ สิงคโปร์, ประเทศมหาอำนาจในเอเชีย อาทิ อินเดีย ที่มีประชากรมากเป็นพันล้านคน เช่นเดียวกับ จีน, ญี่ปุ่น-เกาหลีใต้ และ 2 ประเทศในพื้นที่มหาสมุทรแปซิฟิกตอนใต้ ทั้ง ออสเตรเลีย และ นิวซีแลนด์ มีจำนวนสมาชิกมากถึง 2.3 ล้านคน และมีรถยนต์ที่เป็น Car Sharing มากถึง 22,844 คัน
- กลุ่มประเทศในสหภาพยุโรป ด้วยความที่เป็นพื้นที่ที่เล็ก แต่เต็มไปด้วยประเทศเล็กประเทศน้อยมากมาย และทุกประเทศในยุโรปสามารถเดินทางไปหากันสะดวกสบาย แค่เน้นประเทศยักษ์ใหญ่ๆ ก็มากมายแล้ว อาทิ สหราชาณาจักร, ฝรั่งเศส, เยอรมัน, สเปน, ออสเตรีย, สวิตเซอร์แลนด์ และ อิตาลี มีจำนวนสมาชิกมากถึง 2.2 ล้านคน และมีรถยนต์มากถึง 57,947 คันด้วยกัน
- ทวีปอเมริกาเหนือ จัดได้ว่าเป็นพื้นที่ที่มีความหนาแน่นของประชากรมากพอตัว แค่ สหรัฐอเมริกา ประเทศเดียว ก็มากพอที่จะมีรูปแบบ "รถเช่าร่วม" แบบนี้แล้ว เพราะเป็นประเทศใหญ่ ปกครองแบบรัฐรวมที่แต่ละรัฐๆ มีเพื่อนใหญ่กว่าประเทศไทยเสียอีก มีจำนวนสมาชิกมากถึง 1.6 ล้านคน และมีรถยนต์มากถึง 24,210 คัน
Car Sharing ในประเทศไทย
ยังพบว่ามีข้อจำกัดทั้งการครอบคลุมของระบบขนส่งสาธารณะและปริมาณจุดจอดรถไม่เพียงพอ อีกทั้งไม่สามารถตอบโจทย์การใช้งานของผู้บริโภคในไทยได้มากนัก แม้กรุงเทพฯ และปริมณฑล จะเป็นเมืองที่มีประชากรจำนวนมากและมีระบบขนส่งสาธารณะในหลากหลายรูปแบบ ทั้งขนส่งระบบรางอย่าง BTS, MRT, เรือด่วนคลองแสนแสบและแม่น้ำเจ้าพระยา รวมไปถึงรถประจำทาง แต่ระบบขนส่งสาธารณะเหล่านี้ยังไม่ครอบคลุมในทุกพื้นที่ และไม่มีการเชื่อมโยงกันมากพอที่จะทำให้ผู้บริโภคพิจารณาลดการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว รวมถึงจุดจอดรถ เช่น อาคารจอดแล้วจร ยังมีปริมาณน้อยและไม่กระจายตัวไปยังบริเวณชานเมือง อีกทั้งยังไม่มีการกำหนดพื้นที่จอดรถสาธารณะในเขตชุมชนหรือย่านการค้า ส่งผลกระทบให้การบริการ car sharing ในรูปแบบ B2C ไม่สามารถให้บริการในลักษณะ one way trip
ที่มา: www.thairentecocar.com