สินค้าไทยนี้ ถือว่าเป็นสินค้าที่ตลาดโลกต้องการไม่ใช่น้อย โดยผลรายงานจาก กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ พบว่าการส่งออกในปี 2017 นั้นมีมูลค่าสูงถึง 3,030,418.6 ล้านบาท โดย 5 ตลาดหลักที่น่าสนใจ และ มีมูลค่าการส่งออกสูงที่สุด ได้แก่ จีน สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น ฮ่องกง และ เวียดนาม ซึ่งที่ผ่านมาการส่งออก ก็มีอัตราการขยายตัวอยู่ตลอด นอกเหนือจากนี้เราจะสังเกตเห็นได้เสมอว่า เวลาชาวต่างชาติมาเที่ยวเมืองไทยนั้น ก็จะซื้อสินค้ากลับไปฝาก เพื่อน พี่น้อง และ ครอบครัวมากมาย แสดงให้เห็นถึงความต้องการ และ ความสนใจ ในสินค้าไทยของชาวต่างชาติ ซึ่งตรงนี้เอง ถือเป็นโอกาสที่ดี ที่เราจะส่งสินค้าออกไปขายให้ตรงกับตลาดเหล้านั้นบ้าง
5 ตลาดหลักที่สินค้าไทยส่งออก
1.จีน
ประเทศจีนนั้นถือว่าเป็นอันดับต้นๆที่การส่งออกมีมูลค่าสูงที่สุด ถึง 995,474.8 ล้านบาท ในปี 2017 ซึ่งคิดเป็นส่วนแบ่งถึง 12.4% ของมูลค่าการส่งออกทั้งหมดของประเทศไทย ถือว่าเป็นตลาดที่ใหญ่ และ มีกำลังในการซื้อมาก เพียงแค่เราสามารถเจาะเข้าไปได้เพียง 1% ของประชากรทั้งหมดก็ถือว่าสุดยอดแล้ว แต่ผู้บริโภคชาวจีนอาจจะมองว่าสินค้าไทย มีความแตกต่างทั้งทางภาพลักษณ์คุณภาพ และ ความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งสินค้าที่จะขายดีเป็นที่นิยม อาจจะไม่จำเป็นต้องเป็นสินค้าที่มีเอกลักษณ์ในไทยเสมอไป แต่ต้องเน้นที่ความน่าสนใจ และ ความประณีตในการนำเสนอสินค้าต่างๆ โดยสินค้าที่เหมาะแก่การส่งออกไปยังประเทศจีนนั้น ก็คือ ประเภท อาหาร เช่น ขนมทานเล่น กล้วยทอด เผือดทอด ทุเรียนทอด ยาสมุนไพร และ ยางพารา
2. สหรัฐอเมริกา
ประเทศสหรัฐอเมริกาถือว่าเป็นแหล่งนำเข้าสินค้าของไทยที่ใหญ่ที่สุดในโลกในฝั่งประเทศตะวันตก และ อันดับ 2 ของโลกที่ไทยส่งออกสินค้ามากที่สุด โดยสินค้าที่อยู่ในความสนใจของผู้บริโภคชาวอเมริกันนั้น คือ อาหารแปรรูป เสื้อผ้าสำเร็จรูป เครื่องประดับ แผงโซล่าเซลล์ โดยเฉพาะเสื้อผ้าสำเร็จรูปหากสามารถพัฒนารูปแบบสินค้า ออกแบบ ให้มีความน่าสนใจ เข้าใจตามเทรนด์ ตามยุค ก็จะยิ่งเป็นที่น่าสนใจ เนื่องจากคุณภาพ และ การตัดเย็บของไทยนั้น เป็นที่น่ายอมรับ แต่ทั้งนี้ก็ห้ามประมาทคู่แข่งอย่าง จีน อินโดนิเซีย เม็กซิโก แม้คุณภาพสินค้าจะต่ำกว่าของไทย แต่เมื่อมีราคาถูก จึงอาจจะทำให้เรานั้นเสียตลาดได้ง่าย
3.ญี่ปุ่น
ประเทศญี่ปุ่นนั้น มีความต้องการสินค้าจากประเทศไทยมาก โดยประเทศญี่ปุ่นนั้นถือว่าเป็นประเทศชาติที่นิยมใช้ผ้าไหมเป็นอย่างมาก สังเกตได้จาก ความประณีต และ ศิลปะต่างๆ ซึ่งแน่นอนว่าผ้าไหมไทยนั้น มีลวดลาย สีสันสวยงาม มีลักษณะเฉพาะเป็นเอกลักษณ์ ฝีมือการการทอปราณีต และ มีคุณภาพดี อีกทั้งยังเป็นสินค้าหัตถกรรมที่มีมูลค่าสูงเพราะทำมือ โดยนอกเหนือจากผ้าไหมแล้ว ด้ายปั่นไหม เศษไหม ก็สามารถนำมาพัฒนาเป็นสินค้า เช่นผ้าคลุมไหล่ ผ้าพันคอ ให้ตรงตามรสนิยมของคนญี่ปุ่น ก็จะช่วยเพิ่มมูลค่าของสินค้าขึ้นมา นอกเหนือขากนี้สินค้าที่น่าสนใจ ส่งออกก็คือ เครื่องครัว ของใช้ภายในบ้าน เซรามิก และ เฟอร์นิเจอร์ไม้หลากหลายสไตล์นอกจากนี้ยังมีไปจนถึง สมุนไพรจากธรรมชาติ และ เครื่องหอมชนิดต่างๆ
4.ฮ่องกง
ประเทศฮ่องกงนี้เป็นประเทศที่มีพื้นที่จำกัด แต่ก็มีประชากรอยู่มาก และ ยังมีกำลังการซื้อไม่เป็นสองรองใคร สำหรับสินค้าที่เหมาะกับการส่งออกไปฮ่องกง ส่วนใหญ่จะเป็นสินค้าประเภท เกษตรกรรม เนื่องจากประเทศฮ่องกงมีลักษณะภูมิทัศน์ที่ไม่เอื้อต่อการเพาะปลูก และ ไม่มีพื้นที่เพียงพอ ดังนั้นแล้ว ผลไม้สมต่างๆ ข้าว ทุเรียน มะม่วง มะพร้าว รวมไปถึง ดอกไม้นานาพรรณ จึงเป็นที่ต้องการของทางฮ่องกง
5. เวียดนาม
ประเทศเพื่อนบ้านเราอย่างเวียดนาม ถือว่าเป็นตลาดที่น่าสนใจมาก โดยเฉพาะเมื่อเวียดนามมีแผนกำหนดยุทธศาสตร์ส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศในปี 2016-2020 ยิ่งเป็นการดีสำหรับผู้ส่งออกไทย ที่จะต้องมุ่งเน้นสร้างความแข็งแกร่งให้แก่สินค้าแบรนด์ไทย สินค้าที่ทางฝั่งเวียดนามที่นำเข้าอยู่ตลอด จะเป็นสินค้าจำพวก เครื่องนุ่งห่ม อุตสาหกรรมสิ่งทอ รองเท้า เครื่องสำอาง ครีมบำรุง เครื่องดื่ม อุปกรณ์ไฟฟ้า และ ชิ้นส่วนยานยนต์
บทความข้างต้นนี้ เป็นข้อมูลที่มีประโยชน์สำหรับผู้ที่สนใจในเรื่องการส่งออกสินค้าของประเทศไทยไปยังตลาดโลกในประเทศต่างๆ At-once เองได้รวบรวมรายชื่อบริษัทต่างๆ ที่ ให้บริการ นำเข้า-ส่งออก ขนส่งสินค้า ชิปปิ้ง และ โลจิสติกส์แบบครบวงจร คุณสามารถเข้าไปยัง Website ของเรา และ ทำการติดต่อสอบถามข้อมูลการให้บริการต่างๆ จากบริษัทที่คุณสนใจได้โดยตรง ครับ
ขอบคุณภาพจาก:Shipping container photo created by onlyyouqj - www.freepik.com, nbtworld.prd.go.th, promotions.co.th, www.bangkokbiznews.com
