ปัญหาขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์นั้น เป็นผลกระทบจากการเกิดของโรคระบาด โควิด-19 กินระยะเวลามายาวนาน ทำให้ผู้ส่งออกแบกรับค่าขนส่งแพงขึ้นเท่าตัว เนื่องจากฝั่งเอเชียรวมทั้งไทย กลับมากดำเนินการส่งออกสินค้าไปยังสหรัฐอเมริกาและยุโรปมากขึ้น สร้างรายได้กลับมาให้ผู้ส่งออกได้ลืมตา อ้าปาก ฟื้นตัวขึ้นได้ใหม่อีกครั้ง แต่ในทางกลับกัน การส่งออกจากทางสหรัฐฯ มายังเอเชียลดน้อยลง ทำให้ช่วงหลังเกิดภาวะตู้คอนเทนเนอร์ขาดแคลน ส่งผลให้ค่าระวางสินค้าเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ในการประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนด้านการพาณิชย์ (กรอ.พาณิชย์) ครั้งที่ 1/2564 โดยมีรองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธาน ได้เปิดเผยมาตรการและแนวทางแก้ไข ไว้ดังต่อไปนี้
- สินค้าส่งออกที่ไม่จำเป็นต้องใช้ตู้ เช่น ผลิตผลทางการเกษตร หรือ ไม้ยางพารา ให้ใช้เรือ โดยมีการเตรียมเรือไว้แล้วจำนวนหนึ่ง ซึ่งจะดำเนินการได้ในช่วงสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนกุมภาพันธ์
- ลดค่าธรรมเนียมการนำเข้าตู้คอนเทนเนอร์เปล่า โดยการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) ได้เป็นผู้ดำเนินการเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์
- เปิดโอกาสให้เรือขนาด 400 เมตร 6 สายการเดินเรือ เข้ามาเทียบท่าที่แหลมฉบังได้โดยไม่ต้องขออนุญาตได้ตามที่เอกชนเคยร้องขอเอาไว้ โดยกระทรวงพาณิชย์
ภาคเอกชน ร่วมกับ กทท. มีคำสั่งให้เข้ามาดำเนินการขอใบอนุญาต โดยใช้เพียง 1 วัน จากนั้นจะสามารถเข้าเทียบท่าได้ตลอดระยะเวลา 2 ปี
มาตรการเสริมสำหรับผู้ส่งออกสินค้าไปจีน ได้ผลักดันให้เน้นการขนส่งทางบกมากขึ้น โดยผ่านทางด่านไทย ไปลาว เวียดนาม และจีน ลดการใช้ตู้คอนเทนเนอร์ที่ท่าเรือ ซึ่งด่านชายแดนก็ยังไม่เปิดทั้งหมด

ปัจจุบันนี้ ด่านชายแดนเปิดแล้ว 40 ด่าน จากทั้งหมด 97 ด่าน และอยู่ระหว่างเร่งรัดให้เปิดอีก 3 ด่าน คือ
- ด่านป่าแซง จังหวัดอุบลราชธานี
- ด่านเชียงคาน จังหวัดเลย
- ท่าเรือหายโศก จังหวัดหนองคาย
จึงต้องเจรจาเปิดเพิ่มขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวกในการขนส่งทางบกแทนทางเรือ
Website ของเรานั้นได้ให้บริการรวบรวมข้อมูลบริษัทต่างๆ ที่ให้บริการด้าน นำเข้า-ส่งออก โลจิสติกส์แบบครบวงจร คุณสามารถเข้าไปติดต่อสอบถามข้อมูลการให้บริการกับบริษัทที่คุณสนใจได้โดยตรง ทั้งนี้นั้นทางเราเป็นเพียงแค่ตัวกลาง ระหว่างคุณกับบริษัทที่คุณสนใจครับ
ที่มา: www.bkkterminal.com