สินค้า 1 ใน 4 ของโลก ต้องเดินทางผ่านช่องแคบมะละกา
แลนด์บริดจ์ จึงเป็นโครงการอภิมหาโปรเจ็กต์เพื่อเชื่อม 2 ฝั่งทะเลจีนใต้และมหาสมุทรอินเดียเข้าด้วยกัน แทนช่องแคบมะละกาที่แออัดมากในปัจจุบันและเมื่อโครงการดังกล่าวประสบความสำเร็จ จะกลายเป็นศูนย์กลางการขนส่ง การค้าการลงทุนไม่เพียงประเทศไทย หรือ ในภูมิภาค แต่เรียกได้ว่า เป็นศูนย์กลางการขนส่ง การค้า และ การลงทุนของโลกเลยก็ว่าได้
สำหรับโครงการแลนด์บริดจ์ เป็นโครงการที่สอดคล้องกับแผนขับเคลื่อนการพัฒนาพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้อย่างยั่งยืน ลงทุนโดยรัฐและเอกชน โดยเชื่อมโยงการขนส่งระหว่างอ่าวไทยและฝั่งอันดามัน พร้อมสร้างรางรถไฟทางคู่ และ มอเตอร์เวย์เพื่อเชื่อมต่อระหว่างท่าเรือท่าน้ำลึก 2 จุด ในจังหวัดระนองและชุมพร ระยะทาง 109 กิโลเมตร เป็นจำนวนเงินลงทุน 4.5หมื่นล้านบาท
จากความเดิมเมื่อปี พ.ศ. 2563
รัฐอนุมัติงบประมาณเพื่อสำรวจการก่อสร้างท่าเรือน้ำลึกทั้ง 2 ฝั่ง มาแล้วกว่า 75 ล้านบาท ในการสร้างท่าเรือน้ำลึก มีการพิจารณาการก่อสร้าง 2 วิธี ได้แก่ การพัฒนาท่าเรือเดิมที่มีอยู่ และการสร้างท่าเรือใหม่ด้วยการถมทะเล ซึ่งจะต้องประเมินการลงทุนต่างๆ และผลกระทบด้วย
ความคืบหน้าโครงการแลนด์บริดจ์
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้สั่งการให้สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร เดินหน้าโครงการ Land Bridge โดยได้ลงนามสัญญาจ้างที่ปรึกษา เพื่อการศึกษารายละเอียดทั้งด้านการออกแบบ การประเมินผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงรูปแบบโมเดลการพัฒนาการลงทุน การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อพัฒนาพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้
การขนส่งผ่านช่องแคบมะละกาในปัจจุบันนี้ ประสบปัญหาในด้านของความหนาแน่นของปริมาณเรือสูง และ จะเต็มศักยภาพการรองรับในปี 2567 และ จะหนาแน่นเพิ่มขึ้นอีก 4 เท่าในปี 2593 หากโครงการแล้วเสร็จ แลนด์บริดจ์จะเปลี่ยนเส้นทางการขนส่งจากปัจจุบันที่อ้อมไกลผ่านช่องแคบ มะละกา สิงคโปร์ มาผ่านแลนด์บริดจ์จากท่าเรือระนอง-ชุมพร แทน ซึ่งจะลดระยะเวลาการขนส่งลงได้อีก 2 วัน
รายละเอียดการศึกษาโครงการ Land Bridge
- ทางเรือ (ท่าเรือชุมพร/ท่าเรือระนอง/ท่าเรือระนองใหม่/ลองร่องน้ำระนอง)
- ทางถนน (มอเตอร์เวย์ระนอง/ชุมพร)
- ทางราง (ทางรถไฟสายใหม่ระนอง-ชุมพร)
- ทางท่อ (ท่อส่งน้ำมันเชื่อมระนอง-ชุมพร)
ในส่วนของการออกแบบท่าเรือ จะเป็นรูปแบบ Smart Port มีการควบคุมด้วยระบบออโตเมชั่น รวมถึงการ พัฒนา Motoway รถไฟรางคู่ และ ระบบขนส่งทางท่อ ก่อสร้างไปพร้อมๆกัน ด้วยเงินลงทุนทั้งโครงการ ประมาณ 100,000 ล้านซึ่งจากการลงทุนดังกล่าวนี้ จะเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจใจระยะยาวครับ
Website ของเรานั้นได้ให้บริการรวบรวมข้อมูลบริษัทต่างๆ ที่ให้บริการด้าน นำเข้า-ส่งออก โลจิสติกส์แบบครบวงจร คุณสามารถเข้าไปติดต่อสอบถามข้อมูลการให้บริการกับบริษัทที่คุณสนใจได้โดยตรง ทั้งนี้นั้นทางเราเป็นเพียงแค่ตัวกลาง ระหว่างคุณกับบริษัทที่คุณสนใจครับ
ที่มา: www.bkkterminal.com