การเลือก ผู้รับเหมาก่อสร้าง ที่ดีและเหมาะสมเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้โครงการก่อสร้างประสบความสำเร็จ ทั้งในด้านคุณภาพ งบประมาณ และระยะเวลา อย่างไรก็ตาม ผู้ว่าจ้างควรพิจารณาและระมัดระวังในหลายๆ ด้าน เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาและความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นภายหลัง ดังนี้
- ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของผู้รับเหมา
1.1 ตรวจสอบประวัติและผลงานของผู้รับเหมาในอดีต โดยเฉพาะประสบการณ์ในงานที่มีลักษณะและขนาดใกล้เคียงกับโครงการที่จะว่าจ้าง
1.2 พิจารณาความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านของผู้รับเหมา เช่น งานโครงสร้าง งานระบบ งานตกแต่ง ที่ตรงกับความต้องการของโครงการ
1.3 ระวัง ผู้รับเหมา ที่มีประสบการณ์น้อยหรือไม่มีผลงานอ้างอิงที่น่าเชื่อถือ เพราะอาจส่งผลต่อคุณภาพและมาตรฐานของงานก่อสร้าง - ใบอนุญาตและการขึ้นทะเบียนผู้รับเหมา
2.1 ตรวจสอบใบอนุญาตประกอบวิชาชีพและการขึ้นทะเบียน ผู้รับเหมา กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สภาวิศวกร สภาสถาปนิก กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เป็นต้น
2.2 ระวัง ผู้รับเหมา ที่ไม่มีใบอนุญาตหรือใบอนุญาตขาดอายุ เพราะอาจไม่สามารถดำเนินงานได้ตามกฎหมายและมีความเสี่ยงสูง - สถานะทางการเงินและความมั่นคงของบริษัท
3.1 ตรวจสอบสถานะทางการเงิน เงินทุน และความสามารถในการทำกำไรของ ผู้รับเหมา ผ่านงบการเงิน รายงานประจำปี หรือข้อมูลทางธุรกิจต่างๆ
3.2 พิจารณาความมั่นคงและชื่อเสียงของบริษัท ผู้รับเหมา อายุของกิจการ และประวัติการทำงานที่ผ่านมา
3.3 ระวังผู้รับเหมาที่มีปัญหาสภาพคล่องทางการเงิน มีภาระหนี้สินมาก หรืออยู่ในภาวะขาดทุน ซึ่งอาจส่งผลต่อความต่อเนื่องในการทำงานและคุณภาพของงานก่อสร้าง - บุคลากรและทีมงานหลักของผู้รับเหมา
4.1 พิจารณาโครงสร้างองค์กร อัตรากำลัง และความเชี่ยวชาญของทีมงานหลักของ ผู้รับเหมา เช่น วิศวกร สถาปนิก โฟร์แมน ช่างเทคนิค เป็นต้น
4.2 ตรวจสอบคุณสมบัติ ประสบการณ์ และใบอนุญาตของบุคลากรหลัก เพื่อให้มั่นใจว่ามีความสามารถในการบริหารและควบคุมคุณภาพงานก่อสร้างได้
4.3 ระวัง ผู้รับเหมา ที่มีทีมงานน้อยเกินไป ใช้แรงงานที่ไม่มีทักษะ หรือขาดบุคลากรหลักที่มีความเชี่ยวชาญในงานก่อสร้าง - อุปกรณ์และเครื่องมือในการทำงาน
5.1 ตรวจสอบความพร้อมของอุปกรณ์ เครื่องมือ และเทคโนโลยีที่ทันสมัยของ ผู้รับเหมา ที่จำเป็นต่อการดำเนินงานก่อสร้างให้มีประสิทธิภาพ
5.2 พิจารณาแผนการบำรุงรักษาอุปกรณ์และเครื่องมือของ ผู้รับเหมา เพื่อลดความเสี่ยงจากปัญหาเครื่องมือชำรุดหรือเสียหายระหว่างการทำงาน
5.3 ระวังผู้รับเหมาที่มีอุปกรณ์และเครื่องมือไม่เพียงพอหรือไม่ได้มาตรฐาน ซึ่งอาจทำให้เกิดความล่าช้าหรือได้ผลงานที่ไม่มีคุณภาพ - การบริหารจัดการความปลอดภัยในงานก่อสร้าง
6.1 พิจารณาระบบการจัดการความปลอดภัยและอาชีวอนามัยของ ผู้รับเหมา เช่น นโยบาย แผนงาน การฝึกอบรม อุปกรณ์ป้องกัน การตรวจสอบและควบคุม
6.2 ตรวจสอบประวัติการเกิดอุบัติเหตุ การร้องเรียน หรือการดำเนินคดีเกี่ยวกับความปลอดภัยของ ผู้รับเหมา
6.3 ระวัง ผู้รับเหมา ที่ไม่ให้ความสำคัญกับเรื่องความปลอดภัย ละเลยมาตรการป้องกัน หรือมีสถิติการเกิดอุบัติเหตุสูง ซึ่งอาจนำมาซึ่งความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สิน - ราคาที่เสนอและการประมาณการต้นทุน
7.1 เปรียบเทียบราคาที่ผู้รับเหมาเสนอกับราคามาตรฐานหรือราคาตลาด ควรขอใบเสนอราคาจาก ผู้รับเหมา หลายราย เพื่อให้สามารถเปรียบเทียบต้นทุนได้
7.2 พิจารณารายละเอียดการคิดราคาและประมาณการต้นทุนของ ผู้รับเหมา ควรมีการแจกแจงต้นทุนค่าวัสดุ ค่าแรง ค่าดำเนินการ และกำไรไว้อย่างชัดเจน
7.3 ระวังผู้รับเหมาที่เสนอราคาต่ำผิดปกติหรือต่ำกว่าทุน ราคาที่สูงหรือต่ำเกินไปล้วนมีความเสี่ยงที่จะกระทบต่อคุณภาพของงาน การบริหารต้นทุน และแผนการทำงาน
นอกจากประเด็นข้างต้นแล้ว ผู้ว่าจ้างยังควรพิจารณาปัจจัยอื่นๆ ประกอบ เช่น ชื่อเสียงและการยอมรับในวงการ ผลงานอ้างอิงที่สามารถเข้าไปตรวจสอบได้ การให้ความร่วมมือและการสื่อสารที่ดี รวมถึงความสามารถในการปฏิบัติตามข้อตกลงในสัญญา การเลือก ผู้รับเหมาก่อสร้าง จึงจำเป็นต้องใช้ความละเอียดรอบคอบ และหาข้อมูลจากหลายแหล่งประกอบการตัดสินใจ เพื่อให้ได้ผู้รับเหมาที่มีคุณภาพและสามารถส่งมอบโครงการได้ตามเป้าหมายที่วางไว้