"สำหรับใครที่กำลังสนใจหรือศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับโซล่าเซลล์ แต่พอไปหาอุปกรณ์ต่างๆ คงจะเกิดคำถามขึ้นมาอย่างแน่นอนว่า อุปกรณ์สำหรับโซล่าเซลล์ในแต่ละแบบนั้นมีข้อแตกต่างกันอย่างไร"
วันนี้ทาง at once ของเราจะมาขออธิบายถึงอุปกรณ์หลักในวงจรโซล่าเซลล์ออฟกริดกันก่อน เพื่อจะได้ไม่เป็นที่สับสนของใครหลายๆคน ซึ่งในบทความนี้จะอธิบายการคํานวณโซล่าเซลล์ออฟกริดอย่างง่ายที่สามารถเอาไปใช้กันได้ โดยหลักการนี้ไม่ได้ซับซ้อนมากนัก ถือเป็นหลักการคำนวณง่ายๆ ทั่วไปเลย ที่เราสามารถเข้าใจได้ถ้าได้อ่านบทความนี้ตั้งแต่ต้นจนจบ
หลักการคำนวณโซล่าเซลล์ออฟกริด (off-grid)
การคำนวณโซล่าเซลล์ออฟกริด นั้นเป็นการคำนวณว่าจะต้องใช้โซล่าเซลล์กี่แผงและขนาดเท่าใดเพื่อให้สามารถผลิตไฟฟ้าที่มีความเพียงพอต่อความต้องการของบ้านหรืออาคารของคุณได้ โดยไม่ต้องเสียเวลาในการเชื่อมต่อกับกระแสไฟฟ้าจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค

การคำนวณโซล่าเซลล์ออฟกริด โดยต้องมีข้อมูลต่อไปนี้
1.พื้นที่หรือพื้นที่ใช้ติดตั้งโซล่าเซลล์ (ในหน่วยตารางเมตร)
2.ปริมาณการใช้พลังงานไฟฟ้าของบ้านหรืออาคารของคุณในแต่ละวัน (ในหน่วยกิโลวัตต์ต่อชั่วโมงหรือ kWh)
3.ปริมาณแสงอาทิตย์ที่มีในพื้นที่ที่คุณต้องการติดตั้งโซล่าเซลล์ (ในหน่วยวัตต์ต่อตารางเมตรหรือ W/m²)
4.ประสิทธิภาพของโซล่าเซลล์ (ในหน่วยเปอร์เซ็นต์)
เมื่อมีข้อมูลดังกล่าวแล้ว สามารถคำนวณโซล่าเซลล์ออฟกริดได้ด้วยสูตร ดังนี้
1.คำนวณพลังงานที่ต้องการในแต่ละวันโดยใช้สูตร
พลังงานที่ต้องการ = ปริมาณการใช้ไฟฟ้าของบ้านหรืออาคาร x 24 (จำนวนชั่วโมงในแต่ละวัน)
2.คำนวณพลังงานที่ผลิตได้จากแสงอาทิตย์ในแต่ละวันโดยใช้สูตร
พลังงานที่ผลิตได้ = พื้นที่ที่ติดตั้งโซล่าเซลล์ x ประสิทธิภาพของโซล่าเซลล์ x ปริมาณแสงอาทิตย์ในพื้นที่ที่ต้องการติดตั้งโซล่าเซลล์
3.คำนวณจำนวนโซล่าเซลล์ที่ต้องใช้โดยใช้สูตร
จำนวนโซล่าเซลล์ = พลังงานที่ต้องการ / พลังงานที่ผลิตได้ต่อชั่วโมงโดยโซล่าเซลล์
4.คำนวณขนาดของโซล่าเซลล์ที่ต้องใช้โดยใช้สูตร
ขนาดของโซล่าเซลล์ = พลังงานที่ผลิตได้ต่อชั่วโมงโดยโซล่าเซลล์ / ประสิทธิภาพของโซล่าเซลล์

หากเราได้อ่านบทความนี้ตั้งแต่ต้นจนจบ เราจะเห็นเลยว่า การคำนวณออกแบบวงจร โซล่าเซลล์ off-grid ไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่คิด แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น สูตรที่ใช้ในการคำนวณนั้น อาจมีการปรับแต่งเพิ่มเติม เช่น การคิดต้นทุนการติดตั้งและการจัดการแบตเตอรี่ เพื่อที่เราจะได้เก็บพลังงานสำรองในกรณีที่แสงอาทิตย์ไม่เพียงพอในบางช่วงของปี ดังนั้น การคิดต้นทุนการติดตั้งและการจัดการแบตเตอรี่ เราจะต้องพิจารณาต้นทุนการซื้อ การบำรุงรักษา การเปลี่ยนแบตเตอรี่ และการจัดเก็บแบตเตอรี่ ซึ่งอาจมีความต้องการใช้งานที่ต่างกันไปตามสถานที่ และความต้องการของเราเองด้วย
ที่มา: energyfordummies.com