ในยุคที่ผู้บริโภคใช้เวลาบนโลกออนไลน์มากขึ้น ธุรกิจจำเป็นต้องปรับตัวเพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และหนึ่งในเทรนด์ การตลาดออนไลน์ ที่กำลังมาแรงและตอบโจทย์ยุคดิจิทัลก็คือ Video Marketing ที่สามารถดึงดูดความสนใจ สร้างการมีส่วนร่วม และเพิ่มการจดจำแบรนด์ได้ดีกว่าสื่อประเภทอื่นๆ โดยเหตุผลที่ Video Marketing ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ มีดังนี้
- ผู้บริโภคชื่นชอบการบริโภควิดีโอ
ด้วยคุณสมบัติของวิดีโอที่มีทั้งภาพและเสียง ทำให้สามารถเล่าเรื่องราว สื่ออารมณ์ และดึงดูดความสนใจได้ดีกว่าข้อความหรือรูปภาพ ซึ่งสอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้บริโภคยุคใหม่ที่ชื่นชอบการรับข้อมูลผ่านวิดีโอมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นบน YouTube, Facebook, Instagram หรือ TikTok ก็ตาม ทำให้แบรนด์ที่มีการทำ Video Content มีโอกาสเข้าถึงผู้ชมได้กว้างขวาง - เพิ่มการค้นพบบน Search Engine
วิดีโอมีโอกาสติดอันดับบน Search Engine ได้สูงกว่าสื่อประเภทอื่น เนื่องจาก Google และ YouTube (ที่ Google เป็นเจ้าของ) ให้ความสำคัญกับวิดีโอในการจัดอันดับการค้นหา หากแบรนด์มีการใช้คำหลักที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาในวิดีโออย่างเหมาะสม ก็จะช่วยเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่กำลังค้นหาข้อมูลในหัวข้อนั้นๆ ได้มากขึ้น - สร้างความน่าเชื่อถือและไว้วางใจ
การใช้วิดีโอเล่าเรื่องราวของแบรนด์ ไม่ว่าจะเป็นที่มา ค่านิยม กระบวนการผลิต หรือวิธีการใช้งานสินค้า จะช่วยให้ลูกค้าเข้าใจและเห็นภาพได้ชัดเจนขึ้น เสริมสร้างความน่าเชื่อถือ ความจริงใจ และความไว้วางใจให้กับแบรนด์ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจซื้อ โดยเฉพาะการใช้วิดีโอรีวิวสินค้าจากผู้ใช้งานจริง หรือจากอินฟลูเอนเซอร์ จะยิ่งเพิ่มความน่าเชื่อถือมากขึ้นไปอีก - เพิ่มการมีส่วนร่วมและแชร์ต่อ
วิดีโอสามารถสร้างอารมณ์ร่วม กระตุ้นการโต้ตอบ และนำไปสู่การแชร์ต่อได้มากกว่าสื่อประเภทอื่นๆ โดยเฉพาะวิดีโอที่มีเนื้อหาน่าสนใจ สร้างแรงบันดาลใจ มีประโยชน์ หรือความบันเทิง จะมีโอกาสในการแชร์และไวรัลสูง ช่วยขยายการเข้าถึงวงกว้างได้แบบทวีคูณ นอกจากนี้ ยังสามารถสร้างการมีส่วนร่วมจากผู้ชมได้ผ่านการกด Like, Comment และ Share ซึ่งส่งผลดีต่อ Engagement Rate อีกด้วย - เพิ่มอัตราการคลิกและคอนเวอร์ชัน
การใช้วิดีโอโปรโมทสินค้าหรือแคมเปญต่างๆ จะช่วยเพิ่มอัตราการคลิกที่สูงกว่าโฆษณาแบบข้อความหรือภาพนิ่ง เพราะวิดีโอช่วยจูงใจให้ผู้ชมสนใจและอยากรู้ข้อมูลเพิ่มเติมมากกว่า นอกจากนี้วิดีโอสาธิตการใช้งานสินค้าหรือบริการ รวมถึงวิดีโอรีวิวจากลูกค้าจริง ก็จะช่วยให้ลูกค้าเห็นประโยชน์และคุณค่าได้ชัดเจน ส่งผลให้อัตราการแปลงเป็นการซื้อหรือใช้บริการสูงขึ้น
ในการทำ Video Marketing ให้ได้ผลนั้น ควรเริ่มต้นจากการกำหนดวัตถุประสงค์ กลุ่มเป้าหมาย และรูปแบบของวิดีโอให้ชัดเจน จากนั้นก็เริ่มสร้างสรรค์เนื้อหาให้ตรงกับความต้องการและความสนใจของผู้ชม ใช้การเล่าเรื่องที่ดึงดูดใจ มีเอกลักษณ์ของแบรนด์ที่โดดเด่น ยึดหลัก Story Telling ในการนำเสนอ และต้องใส่ใจกับทุกรายละเอียดตั้งแต่ เทคนิคการถ่ายทำ การตัดต่อ เสียงประกอบ การใช้กราฟิก และตัวอักษร เป็นต้น รวมถึงควรมีการ Optimize SEO ให้เหมาะสมเพื่อเพิ่มโอกาสการเข้าถึงจากการค้นหาด้วย
นอกจากการสร้างวิดีโอคุณภาพดีแล้ว สิ่งสำคัญคือการนำไปเผยแพร่ในช่องทางต่างๆ ให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย อาจโพสต์บนเว็บไซต์ แชร์ผ่านโซเชียลมีเดีย ใน Facebook Page, YouTube Channel, Instagram Stories, TikTok หรืออาจลงโฆษณาผ่าน YouTube Ads, Facebook Video Ads เป็นต้น ซึ่งบางช่องทางอาจต้องปรับเนื้อหาและความยาววิดีโอให้เหมาะสมกับแพลตฟอร์มนั้นๆ ด้วย และสุดท้ายคือการวัดผลและวิเคราะห์ข้อมูลจากการทำ Video Marketing อย่างสม่ำเสมอ โดยใช้เมตริกต่างๆ ทั้ง View, Engagement, Click, Conversion Rate เพื่อประเมินประสิทธิผลและนำไปปรับปรุงกลยุทธ์ต่อๆ ไป
จะเห็นได้ว่า Video Marketing ไม่ได้เป็นเพียงแค่กระแสหรือเทรนด์ชั่วคราว แต่จะยังคงอยู่และมีความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ ในยุคดิจิทัล ดังนั้นแบรนด์ที่อยากประสบความสำเร็จใน การตลาดออนไลน์ จึงไม่ควรพลาดที่จะใช้ Video Marketing เป็นหนึ่งในกลยุทธ์หลักในการสื่อสาร ดึงดูดกลุ่มเป้าหมาย และสร้างผลลัพธ์ทางธุรกิจที่ดีได้อย่างแน่นอน