ค้นหา
ต้นทุนจำกัด แต่ต้องการลงโฆษณาบน Google ต้องทำอย่างไร

ต้นทุนจำกัด แต่ต้องการลงโฆษณาบน Google ต้องทำอย่างไร

เจ้าของธุรกิจหลายท่านยังมีความกลัว และกังวลกับการลงทุนเพื่อทำ โฆษณา Google Ads กลัวว่าผลลัพธ์ที่ได้จะไม่คุ้มค่ากับเงินที่ใช้ลงทุนไป จนไม่กล้าคิดที่จะเริ่มทำการตลาดอย่างจริงจัง แต่ที่จริงแล้วการทำ โฆษณา Google Ads มันไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด เพราะว่ามันไม่มีการกำหนดงบประมาณขั้นต่ำ และในบทความนี้ จะทำให้คุณได้รู้ว่า เงินลงทุนเพียงน้อยนิดก็สามารถสร้างผลลัพธ์ที่ดีให้กับธุรกิจได้เหมือนกัน

5 เทคนิค ทำ โฆษณา Google Ads ด้วยต้นทุน “นิดเดียว”

1. กำหนดงบประมาณเท่าที่จ่ายได้

ลองสำรวจตัวเองดูก่อนว่า สามารถตั้งงบประมาณขั้นต่ำต่อวันได้มากเท่าไหร่ เอาตามที่สามารถจ่ายได้ อาจจะลองคิดเป็นเดือนก่อน แล้วหารด้วยจำนวนวันก็ได้ เช่น กำหนดไว้ที่ 6,000 ต่อเดือน ก็จะตกอยู่ที่ วันละ 200 บาท (การใช้งบประมาณ และผลลัพธ์ที่ได้ จะแตกต่างไปตามประเภทของธุรกิจ บางธุรกิจทุน 200 บาทก็อาจไม่พอ)เมื่อตั้งงบประมาณเรียบร้อยแล้ว เรามาลองให้ Google Ads ประเมินกันครับว่า งบประมาณที่ตั้งเอาไว้ จะได้ผลลัพธ์จากการทำโฆษณาเป็นอย่างไรบ้าง หากยังไม่พอใจคุณอาจเพิ่มงบเข้าไปอีกเพื่อให้ผลลัพธ์ดีขึ้น วิธีประเมิน ให้คุณเปิด Keyword Planner ขึ้นมาแล้วใส่ Keyword ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ หรือเว็บไซต์ของคุณลงไป เราก็จะได้ผลลัพธ์ที่ Google คาดการณ์มาให้ จะเห็นว่ามีคนคลิกเข้ามาที่เว็บไซต์ของเราประมาณกี่คลิกใน 1 เดือน เมื่อใช้งบ 6,000 บาท

2. ใช้ Keyword ที่เฉพาะเจาะจง

หากคุณต้องการทำโฆษณางบน้อยๆ ให้มีประสิทธิภาพ คุณต้องเลือกใช้ Keyword ที่คุ้มค่ากับธุรกิจของคุณให้มากที่สุด การหา Keyword ให้คุณไปที่ Keyword Planner แล้วเลือก Discover new keywords จากนั้นให้คุณใส่ Keyword ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณลงไป แล้ว GET RESULTS เมื่อเข้ามาคุณจะเห็น Keyword ที่ Google แนะนำมาให้ พร้อมบอกจำนวนการค้นหาเฉลี่ยในแต่ละเดือน การแข่งขัน และราคาคลิกของแต่ละ Keyword ให้เราหา Keyword ที่มีการแข่งขันต่ำ ราคาคลิกถูก และตรงกับเป้าหมายของเรามา 1 Keyword เพราะการที่เราเลือกหลายคำ จะทำให้ผลลัพธ์ที่เราได้ น้อยลงไปด้วย

3. สร้าง Ad Group สำหรับ 1 Keyword

การใส่ Keyword ใน Ad Group นี้จะโฟกัสไปที่การใช้ Keyword เพียง 1 คำ เท่านั้น! พร้อมกำหนดรูปแบบการทำงานของ Keyword

Broad match modifier : +Keyword
Phrase match : “Keyword”
Exact match : [Keyword]

การทำ 1 Ad Group 1 Keyword จะช่วยให้คุณเขียนคำโฆษณาได้ง่ายขึ้น การใส่ Keyword ลงใน Ad Text จะช่วยเพิ่มคะแนนคุณภาพ เพราะ Quality Score เป็นปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่งที่คอยกำหนดว่า โฆษณาของเราจะอยู่ในอันดับที่เท่าไหร่ และแสดงบ่อยแค่ไหน ที่สำคัญ การทำ Quality Score ให้สูงขึ้นจะทำให้ค่าคลิกของเราถูกลงอีกด้วย

4. ใช้การเสนอราคาแบบ ECPC (Enhanced Cost Per Click)

สิ่งที่เราจะแนะนำก็คือการเสนอราคาแบบ ECPC (Enhanced Cost Per Click) เป็นวิธีการเสนอราคาที่จะปรับราคาให้สูงขึ้นเมื่อเจอกับคลิกที่มีแนวโน้มว่าจะเกิดเป็น Conversion เป็นการบริหารเงินของเราให้เหมาะสมที่สุด และจะปรับลดราคาลงเมื่อเจอคลิกที่มีโอกาสซื้อน้อย

5. สร้างหน้าเพจเพื่อรองรับโฆษณาโดยเฉพาะ

สิ่งสำคัญที่จะทำให้โฆษณา สามารถสร้างผลลัพธ์ที่ดีได้ก็คือ Landing Page ต้องตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า สาเหตุที่ให้การทำ โฆษณา Google Ads ไม่ได้ผลนั้น ส่วนใหญ่มาจาก Landing Page (หน้าเพจ) ที่ไม่มีประสิทธิภาพ ไม่ตอบโจทย์ คลิกเข้ามาแล้วไม่เจอสิ่งที่ลูกค้าต้องการ และการเข้ามาดูสินค้าที่ต้องการ พร้อมข้อมูลที่ช่วยประกอบการตัดสินใจ ยกตัวอย่างเช่น ใช้ Keyword คำว่า อิฐมวลเบา Landing Page ที่เหมาะสมกับแคมเปญนี้ไม่ใช่หน้าเพจที่มีสินค้าประเภท อิฐ มากมายมาให้ลูกค้าตัดสินใจเลือกซื้อ แต่เป็นหน้าเพจที่บอกว่า อิฐมวลเบาของเรานั้นดียังไง มีความแข็งแรง ทนทาน เหมาะกับการก่อสร้างแบบไหนบ้าง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า 

การทำให้เขาตัดสินใจซื้อสินค้าของเรา โดยโฆษณา Google Ads สามารถกระตุ้นยอดขาย และเพิ่มกำไรให้ธุรกิจได้จริง เพียงแค่เราต้องอาศัยการลงทุนบ้าง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีกลับคืนมา น่าเสียดายที่หลายคนพลาดโอกาสดีๆ แบบนี้ไปเพราะไม่อยากเสียเงิน หรือกลัวขาดทุน แต่บทความนี้ก็ทำให้คุณได้เห็นแล้วว่า ไม่ว่าคุณจะมีงบประมาณน้อยแค่ไหน คุณก็สามารถทำ โฆษณา Google Ads เพื่อสร้างผลลัพธ์ที่ดีได้ เพียงแค่ทำตาม 5 เทคนิคที่กล่าวมา

ที่มา: www.makewebeasy.com

ขอใบเสนอราคา

แบบฟอร์มสำหรับ 1-CE WIND CO., LTD. เท่านั้น !

แชร์บทความ หรือข่าวสาร

Facebook
Line
Mail