1. สิทธิในการได้รับค่าจ้างที่เป็นธรรม
หนึ่งในสิทธิพื้นฐานที่ลูกจ้างทุกคนมีคือสิทธิในการได้รับค่าจ้างที่เป็นธรรม กฎหมายแรงงานกำหนดให้นายจ้างต้องจ่ายค่าจ้างให้ลูกจ้างตามจำนวนที่ได้ตกลงกันไว้และไม่ต่ำกว่าค่าจ้างขั้นต่ำที่กฎหมายกำหนด นอกจากนี้ การจ่ายค่าจ้างต้องเป็นไปอย่างโปร่งใสและตรงเวลา รวมถึงการจ่ายเงินค่าล่วงเวลา (Overtime) สำหรับการทำงานที่เกินจากเวลาทำงานปกติ
หากนายจ้างไม่ปฏิบัติตามกฎหมายแรงงานในเรื่องการจ่ายค่าจ้าง ลูกจ้างมีสิทธิในการเรียกร้องค่าจ้างที่ค้างชำระและอาจยื่นฟ้องนายจ้างต่อศาลแรงงานเพื่อให้ได้รับค่าจ้างที่เป็นธรรม

2. สิทธิในการทำงานในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย
การทำงานในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยเป็นสิทธิที่กฎหมายแรงงานคุ้มครองอย่างเข้มงวด นายจ้างมีหน้าที่ในการจัดเตรียมสภาพแวดล้อมในการทำงานที่ปลอดภัยและปราศจากความเสี่ยงที่อาจเป็นอันตรายต่อลูกจ้าง รวมถึงการให้ความรู้และการฝึกอบรมเกี่ยวกับความปลอดภัยในการทำงาน
นอกจากนี้ ลูกจ้างมีสิทธิที่จะปฏิเสธการทำงานในสภาพแวดล้อมที่ไม่ปลอดภัยหรืออาจเสี่ยงต่อสุขภาพและชีวิตของตนเอง หากพบว่านายจ้างละเลยเรื่องความปลอดภัย ลูกจ้างสามารถร้องเรียนต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เพื่อให้มีการตรวจสอบและแก้ไข
3. สิทธิในการหยุดพักและวันหยุด
กฎหมายแรงงานกำหนดให้ลูกจ้างมีสิทธิในการหยุดพักระหว่างการทำงานและมีวันหยุดประจำสัปดาห์ นายจ้างต้องจัดสรรเวลาพักให้เพียงพอเพื่อให้ลูกจ้างสามารถพักผ่อนและฟื้นฟูร่างกายได้ นอกจากนี้ ลูกจ้างยังมีสิทธิที่จะได้รับวันหยุดพักผ่อนประจำปีตามกฎหมาย ซึ่งมีจำนวนวันที่ขึ้นอยู่กับระยะเวลาการทำงานของลูกจ้าง
สำหรับลูกจ้างที่ทำงานในวันหยุดที่กำหนดไว้ตามกฎหมาย พวกเขามีสิทธิที่จะได้รับค่าจ้างพิเศษหรือค่าล่วงเวลาตามที่กฎหมายกำหนด

4. สิทธิในการไม่ถูกเลือกปฏิบัติ
กฎหมายแรงงานคุ้มครองลูกจ้างจากการถูกเลือกปฏิบัติในที่ทำงาน การเลือกปฏิบัติอาจเกิดขึ้นจากหลายปัจจัย เช่น เพศ อายุ เชื้อชาติ ศาสนา หรือความพิการ นายจ้างไม่มีสิทธิที่จะปฏิเสธการจ้างงาน เลื่อนขั้น หรือให้ผลตอบแทนที่ไม่เท่าเทียมกันบนพื้นฐานของปัจจัยเหล่านี้
หากลูกจ้างรู้สึกว่าตนเองถูกเลือกปฏิบัติในที่ทำงาน พวกเขามีสิทธิในการร้องเรียนและขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หรือยื่นฟ้องร้องนายจ้างต่อศาลแรงงานเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม
5. สิทธิในการเลิกจ้างอย่างเป็นธรรม
การเลิกจ้างเป็นเรื่องที่สามารถเกิดขึ้นได้ในธุรกิจทุกประเภท แต่กฎหมายแรงงานได้กำหนดเงื่อนไขที่ชัดเจนเกี่ยวกับการเลิกจ้างที่เป็นธรรม นายจ้างมีสิทธิเลิกจ้างลูกจ้างได้ แต่ต้องมีเหตุผลที่ชอบธรรม เช่น ผลการทำงานไม่ดี พฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม หรือการลดจำนวนพนักงานเนื่องจากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ
นอกจากนี้ ลูกจ้างที่ถูกเลิกจ้างยังมีสิทธิในการได้รับค่าชดเชยตามกฎหมาย ซึ่งจำนวนค่าชดเชยจะขึ้นอยู่กับระยะเวลาการทำงานของลูกจ้าง หากลูกจ้างรู้สึกว่าตนเองถูกเลิกจ้างโดยไม่เป็นธรรม พวกเขาสามารถร้องเรียนต่อศาลแรงงานเพื่อให้มีการพิจารณาคดีและเรียกร้องค่าชดเชยที่เหมาะสม
กฎหมายแรงงานเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยปกป้องสิทธิของลูกจ้างและสร้างความเป็นธรรมในที่ทำงาน การเข้าใจสิทธิของตนเองในฐานะลูกจ้างเป็นสิ่งจำเป็นที่จะช่วยให้คุณสามารถดำเนินการปกป้องตนเองจากการถูกเอาเปรียบและสามารถรักษาความมั่นคงในการทำงานได้อย่างยั่งยืน
การรู้สิทธิในการได้รับค่าจ้างที่เป็นธรรม การทำงานในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย การมีวันหยุดพักผ่อน การไม่ถูกเลือกปฏิบัติ และการเลิกจ้างอย่างเป็นธรรม จะช่วยให้คุณสามารถทำงานได้อย่างมั่นใจ และมีคุณภาพชีวิตที่ดีในที่ทำงาน
ทาง At-once เองนั้น เป็นเว็บไซต์ที่รวบรวมรายชื่อบริษัทที่ให้บริการในส่วนต่างๆ รวมถึง สำนักงานกฎหมาย บริการรับว่าความ รับปรึกษาทางกฎหมาย และปรึกษาคดี คุณสามารถเข้ามาติดต่อสอบถามกับบริษัทที่คุณสนใจได้ใน At-once และสามารถติดต่อสอบถามการให้บริการของเราได้ที่ contact marketing team ครับ
