แค่จัดแสงก็เปลี่ยนบ้านให้ปัง! เลือกแสงไฟยังไงให้โดนใจ

การจัดแสงในบ้านเป็นหนึ่งในปัจจัยที่สามารถเปลี่ยนบรรยากาศของพื้นที่ภายในบ้านได้อย่างไม่น่าเชื่อ ไม่ว่าจะเป็นห้องนั่งเล่น ห้องนอน หรือแม้กระทั่งสวนหลังบ้าน แสงไฟที่ถูกเลือกและจัดวางอย่างถูกต้องจะช่วยให้บ้านดูอบอุ่น หรูหรา หรือสะดวกสบายขึ้นได้ แสงไฟไม่ได้มีเพียงแค่ความสว่างแต่ยังช่วยเพิ่มอารมณ์และความรู้สึกในบ้านให้มีชีวิตชีวามากขึ้นอีกด้วย การเลือกแสงไฟที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม ในบทความนี้ เราจะมาเรียนรู้วิธีการเลือกและใช้งานแสงไฟให้เหมาะสมกับพื้นที่และบรรยากาศในบ้านของคุณ

1. โทนของแสงไฟ

โทนของแสงไฟสามารถแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลัก ได้แก่ แสงสีขาวเย็น (Cool White), แสงสีขาวธรรมชาติ (Daylight), และแสงสีเหลือง (Warm White) แต่ละโทนแสงมีบทบาทที่แตกต่างกันไปตามอารมณ์และบรรยากาศที่คุณต้องการสร้างภายในบ้าน

• แสงสีขาวเย็น (Cool White)

 เป็นแสงที่มีความเข้มของแสงสีขาวที่ดูสว่างใส ให้ความรู้สึกสดชื่นและปลุกเร้าความตื่นตัว เหมาะสำหรับพื้นที่ที่ต้องการความเข้มของแสง เช่น ห้องทำงาน ห้องครัว หรือห้องน้ำ

• แสงสีขาวธรรมชาติ (Daylight)

 แสงนี้ใกล้เคียงกับแสงแดดธรรมชาติ เหมาะสำหรับการใช้งานในพื้นที่ที่ต้องการแสงใกล้เคียงกับกลางวัน เช่น ห้องนั่งเล่น ห้องอาหาร หรือห้องทำงานที่ต้องการแสงใกล้เคียงกับธรรมชาติ

• แสงสีเหลือง (Warm White)

 เป็นแสงที่มีโทนสีอบอุ่น ให้ความรู้สึกสบายและผ่อนคลาย เหมาะสำหรับพื้นที่ที่ต้องการบรรยากาศอบอุ่น เช่น ห้องนอน ห้องนั่งเล่น หรือพื้นที่รับประทานอาหาร

2. เลือกใช้อย่างไรกับจุดไหนดี

การเลือกใช้แสงไฟไม่เพียงแต่ต้องคำนึงถึงโทนของแสงไฟเท่านั้น แต่ยังต้องคำนึงถึงตำแหน่งที่ควรติดตั้งให้เหมาะสมกับแต่ละห้องหรือพื้นที่ต่าง ๆ ในบ้าน

• ห้องนั่งเล่น

ควรเลือกใช้แสงไฟที่ไม่สว่างจนเกินไป เน้นใช้แสง Warm White หรือ Daylight ที่มีความนุ่มนวลเพื่อสร้างบรรยากาศอบอุ่นและสบายในการพักผ่อน

• ห้องนอน

ควรเลือกใช้แสง Warm White ที่ไม่เข้มเกินไป เพื่อให้บรรยากาศผ่อนคลาย ช่วยให้หลับสบายยิ่งขึ้น

• ห้องครัว

ควรใช้แสง Cool White เพื่อความสว่างชัดเจนในการประกอบอาหาร และหลีกเลี่ยงเงาที่จะทำให้มองเห็นไม่ชัดเจน

• ห้องน้ำ

แสง Cool White จะทำให้ห้องน้ำดูสะอาดและสว่าง เพิ่มความชัดเจนในการใช้งาน

3. ฟลูออเรสเซนต์, แอลอีดี, ฮาโลเจน: เลือกหลอดไฟให้เข้ากับความต้องการของคุณ

เมื่อพูดถึงการเลือกหลอดไฟที่เหมาะสมกับความต้องการ มีหลอดไฟหลักอยู่ 3 ประเภทที่นิยมใช้ในบ้าน ได้แก่ ฟลูออเรสเซนต์, แอลอีดี (LED), และฮาโลเจน

• ฟลูออเรสเซนต์

หลอดไฟประเภทนี้มีราคาไม่แพงและใช้พลังงานน้อย เหมาะสำหรับการใช้งานในพื้นที่ที่ต้องการแสงสว่างมากและเปิดใช้งานเป็นเวลานาน เช่น ห้องครัวหรือห้องน้ำ

• หลอด LED

เป็นหลอดไฟที่ประหยัดพลังงานมากที่สุด และมีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่า ทั้งยังมีหลากหลายรูปแบบและโทนแสงให้เลือก เหมาะสำหรับทุกพื้นที่ในบ้าน

• หลอดฮาโลเจน

มีความสามารถในการให้แสงสว่างที่ใกล้เคียงกับแสงธรรมชาติ และเหมาะสำหรับการใช้งานที่ต้องการความสว่างชัดเจน เช่น พื้นที่อ่านหนังสือหรือมุมทำงาน

4. แสงไฟนอกบ้านควรเลือกอย่างไร

การจัดแสงไฟนอกบ้านเป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบที่สำคัญในการเสริมความสวยงามและความปลอดภัยให้กับบ้าน ไม่ว่าจะเป็นการติดตั้งไฟบริเวณสวน หน้าบ้าน หรือทางเดิน ควรเลือกใช้แสงที่เหมาะสมกับการใช้งานและสภาพแวดล้อม

• ไฟสำหรับสวน

ควรเลือกใช้ไฟ LED ที่มีความสว่างพอดีและประหยัดพลังงาน พร้อมทั้งสามารถทนทานต่อสภาพอากาศภายนอก

• ไฟทางเดินหรือหน้าบ้าน

ควรใช้แสง Cool White เพื่อให้แสงสว่างเพียงพอสำหรับการเดินทางในเวลากลางคืน เพิ่มความปลอดภัยและมองเห็นได้ชัดเจน

• ไฟส่องเน้นจุดต่าง ๆ

เช่น การส่องต้นไม้หรือประดับผนัง ควรเลือกแสง Warm White หรือ Daylight เพื่อเน้นความสวยงามขององค์ประกอบนั้น ๆ

การเลือกแสงไฟที่เหมาะสมกับบ้านของคุณไม่เพียงแต่จะช่วยให้พื้นที่ต่าง ๆ ในบ้านดูสวยงามและน่าอยู่มากขึ้น แต่ยังช่วยเพิ่มบรรยากาศที่ดีต่อผู้อยู่อาศัย การเลือกโทนแสงไฟที่เหมาะสมและการติดตั้งในจุดที่ถูกต้องสามารถสร้างบรรยากาศที่คุณต้องการได้อย่างง่ายดาย อย่าลืมคำนึงถึงการเลือกประเภทของหลอดไฟให้เหมาะสมกับการใช้งาน ทั้งภายในและภายนอกบ้าน เพื่อให้คุณได้รับทั้งความสว่างและความสะดวกสบายที่ตรงกับความต้องการของคุณ

ABILMENTE CO.,LTD. ได้ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2545 (ค.ศ.2002) โดยตั้งอยู่ที่ กรุงเทพฯ ประเทศไทย เราเป็นบริษัทออกแบบที่มีเอกลักษณ์ในการออกแบบ ทั้งทางด้านงานสถาปัตยกรรมภายนอก และงานออกแบบตกแต่งภายใน ซึ่งเราเชี่ยวชาญการออกแบบในสไตล์ CONTEMPORARY LUXURY และยังรับดูแลโครงการ ตั้งแต่ ออกแบบ จนก่อสร้างแล้วเสร็จ งานที่เกี่ยวข้องกับโครงการ เช่น การออกแบบเฟอร์นิเจอร์, ออกแบบภูมิทัศน์ และงานก่อสร้าง อีกทั้งยังมีประสบการณ์ในการทำงานมามากกว่า 20 ปี รับประกันงานหลังก่อสร้างแล้วเสร็จ และบริการดูรายละเอียดโดยทีมงานมืออาชีพ สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลการให้บริการได้ที่ เบอร์โทรศัพท์ 02-391-5100 /  094-419-9441