บัตรเครดิตเป็นบัตรอิเล็กทรอนิกส์ที่ผู้ออกบัตร (Issuer) ซึ่งได้แก่ธนาคารพาณิชย์ และ ผู้ประกอบธุรกิจบัตรเครดิตที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน (Non-bank) ออกให้แก่ลูกค้า (ผู้ถือบัตร หรือ Card Holder) ซึ่งประโยชน์ที่ผู้ถือบัตรจะได้รับมีหลายประการ เช่น
แต่ผู้ถือบัตรก็ต้องรู้จักใช้อย่างมีวินัย และ เหมาะสมกับความสามารถในการชำระหนี้ ไม่เช่นนั้นจะเป็นการก่อหนี้โดยไม่จำเป็น เกิดภาระดอกเบี้ย และ ค่าบริการ หรือ มีหนี้สินล้นพ้น ถูกฟ้องร้อง ประวัติสินเชื่อเสียจนเป็นเหตุให้ขอสินเชื่ออื่นที่สำคัญกว่าไม่ได้
บัตรเครดิตมีหลายประเภทที่ถูกออกแบบให้ตอบสนองต่อความต้องการ และ การใช้งานของผู้ใช้งานต่าง ๆ ดังนี้
1. (Regular Credit Cards)
เป็นบัตรเครดิตทั่วไปที่มักให้สิทธิพิเศษต่าง ๆ เช่น การสะสมคะแนน, การให้ส่วนลด และ การเข้าร่วมโปรโมชั่นต่าง ๆ
2. Rewards Credit Cards
มักจะมีระบบสะสมคะแนนที่สามารถแลกเปลี่ยนเป็นสิทธิพิเศษ หรือ ส่วนลดในร้านค้าต่าง ๆ
3. Business Credit Cards
สำหรับผู้ประกอบการ หรือ นักธุรกิจ มักมีสิทธิพิเศษที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกิจ เช่น การสะสมคะแนนในการเดินทางทางธุรกิจ, การจัดการบัญชี, และ อื่น ๆ
4. Student Credit Cards
ออกแบบมาเพื่อรองรับนักเรียน หรือ นักศึกษาที่ยังไม่มีประสบการณ์การใช้บัตรเครดิตมาก่อน
5. Low-Interest Credit Cards
มีอัตราดอกเบี้ยต่ำเมื่อเปรียบเทียบกับบัตรเครดิตประจำ
6. Travel Credit Cards
มักมีสิทธิพิเศษที่เกี่ยวข้องกับการเดินทาง เช่น การสะสมคะแนนที่นำไปใช้ในการจองโรงแรม, ตั๋วเครื่องบิน หรือ การให้บริการการประกันการเดินทาง
7. No Annual Fee Credit Cards
ไม่มีค่าธรรมเนียมปีละ หรือ มีค่าธรรมเนียมน้อย
8. Secured Credit Cards
สำหรับผู้ที่มีประวัติเครดิตไม่ดี โดยต้องมีการมัดจำเงินเพื่อให้ได้ใช้บัตร
9. Retail Credit Cards
ออกแบบมาเพื่อการใช้งานในร้านค้า หรือ ธุรกิจที่กำหนดเจาะจง
10. Affinity Credit Cards
ที่ออกแบบมาเพื่อสนับสนุนองค์กรที่มีสิทธิพิเศษ
11. High-Limit Credit Cards
มีวงเงินในบัตรที่สูงมาก
12. Credit Cards with Insurance
มีประกันความคุ้มครองต่าง ๆ เช่น ประกันการเดินทาง, ประกันการชดเชยในกรณีสูญหาย, หรือ ประกันการต่ออายุชีวิต