ค้นหา
วิกฤตการขนส่งทางทะเลทั่วโลก

วิกฤตการขนส่งทางทะเลทั่วโลก

ผู้เขียนบทความ : At Once
By : At Once

ระบบการขนส่งทั่วโลกนั้น กำลังประสบกับปัญหาจากการระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้เกิดการขาดแคลนของตู้คอนเทนเนอร์อย่างรุนแรง สถานการณ์นี้สามารถพูดได้ว่าส่งผลกระทบในระดับโลก เนื่องจากการขาดตู้คอนเทนเนอร์จะส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานทั้งหมดของการค้าระหว่างประเทศ ต้นทุนการขนส่งไปท่าเรือในอเมริกานั้น เพิ่มขึ้นจากประมาณ 1,500 ดอลลาร์ เป็น 6,000-9,000 ดอลลาร์ต่อผู้คอนเทนเนอร์ ในเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้ การขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ยังทำให้ราคาตู้คอนเทนเนอร์ใหม่สูงขึ้น เนื่องจากผู้ผลิตทราบดีถึงความต้องการที่ใช้ตู้ที่เพิ่มมากขึ้น จึงมีการขึ้นราคาผู้ผลิตตู้คอนเทนเนอร์ของจีนซึ่งเป็นผู้ผลิตที่มีส่วนแบ่งจากตลาดมากที่สุด ในขณะที่เรียกเก็บเงิน 2,500 ดอลลาร์สำหรับตู้คอนเทนเนอร์ใหม่เพิ่มขึ้นจาก 1,600 ดอลลาร์ในปีที่แล้ว นักวิชาการด้านโลจิสติกส์ได้เคราะห์ถึงวิกฤตครั้งนี้เกิดขึ้นนั้น จากสาเหตุทั้งหมด 4ประการ นั้นก็คือ

  • ประการแรก เนื่องจากจำนวนตู้คอนเทนเนอร์ที่มีอยู่ได้ลดลง
  • ประการที่สอง เนื่องจากท่าเรือใหญ่แออัดจากการลดแรงงาน
  • ประการที่สาม เนื่องจากจำนวนเรือที่ให้บริการนั้นลดลง
  • ประการที่สี่ เนื่องจากผู้บริโภคสินค้าได้มีการขาดความเชื่อมั่นในการจับจ่ายซื้อสินค้า

ขอบคุณภาพจาก : www.freepik.com

ตู้คอนเทนเนอร์จากเอเชียที่ปกติจะส่งออกไปยังอเมริกาเหนือ แต่เนื่องจากข้อจำกัดของ โควิด-19 จึงแทบไม่มีการขนส่งเกิดขึ้น สายเรือต่างๆของผู้รับขนส่งจึงไม่ให้ความสนใจกับการส่งตู้เปล่ากลับมาทำให้ตู้คอนเทนเนอร์ มีความไม่สมดุลเกิดความสะสมแบบค่อยๆเพิ่มมากขึ้น จนไม่สามารถแก้ไขได้ในที่สุด และ นอกจากนี้ยังมีปัญหาการขาดแคลนแรงงานอย่างรุนแรงในท่าเรือของอเมริกา และ คลังสินค้าการให้บริการด้านศุลกากรทำได้แค่ 50 เปอร์เซ็นต์ แม้ว่าจีนจะฟื้นตัวกลับมาส่งออก มีปริมาณการส่งออกที่เพิ่มขึ้น แต่ประเทศอื่นๆนั้นก็ยังประสบปัญหาในข้อจำกัดได้ จึงมีการประเมินว่า ตู้คอนเทนเนอร์ที่ส่งเข้าอเมริกาทุกๆ 10 ตู้นี้ จะมีตู้เปล่าที่ได้ส่งกลับเพียง 4 ตู้เท่านั้น อีก 6 ตู้จะฝากไว้ที่ท่าเรือรอผู้นำเข้าทำพิธีการศุลกากร

การค้าระหว่างจีน และ สหรัฐอเมริกานั้น โดยเฉลี่ย 900,000 TEUS ต่อเดือน ความไม่สมดุลของตู้คอนเทนเนอร์กับความต้องการส่งออกนับได้ว่า ส่งผลต่อการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์เพิ่มมาขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นในรอบ 1 เดือน จึงมีตู้เปล่ากลับออกมาจากท่าเรืออเมริกา ประมาณ 360,000 TEUS และ มีตู้ตกค้างรอการตรวจปล่อยประมาณ 540,000 TEUS เริ่มจะมีกระแสการเรีบกร้องให้ประเทศที่มีกำลังการผลิตตู้คอนเทนเนอร์ ทำการขยายกำลังผลิตให้เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะโรงงานผู้ผลิตในประเทศจีนผู้ซึ่งเป็นผู้ผลิตรายใหญ่



At-once นั้น ได้รวบรวบบริษัทขนส่ง นำเข้า-ส่งออก ต่างๆ เป็นจำนวนมาก หากคุณต้องการใช้บริการต่างๆ ในด้านโลจิสติกส์ คุณสามารถเข้าไปที่ Website ของเรา และ สามารถทำการติดต่อสอบถามข้อมูลการให้บริการต่างๆ จากบริษัทที่คุณสนใจได้ด้วยโดยตรง ครับ



ขอบคุณภาพจาก:Cargo container photo created by onlyyouqj - www.freepik.com

ที่มา:www.v-servelogistics.com

แชร์บทความ หรือข่าวสาร

Facebook
Line
Mail