พลังงานทดแทนในยุคปัจจุบันนี้ มีมาเพิ่มเติมขึ้นมาอย่างหลากหลาย เช่น โซล่าเซลล์ และกังหันลม ซึ่ง 2 อย่างที่กล่าวขึ้นมานี้ ล้วนแต่เป็นพลังงานทดแทนทั้งสิ้น เป็นการแปลงพลังงานแสงอาทิตย์มาเป็นพลังงานไฟฟ้าของโซล่าเซลล์ และแปลงพลังงานลมมาเป็นพลังงานไฟฟ้าของกังหันลม ทั้ง 2 สิ่ง ล้วนสร้างประโยชน์ และช่วยให้โลกของเราใช้พลังงานหลักจากน้ำมัน หรือ การเผาไหม้ต่างๆลดน้อยลงขึ้นมาได้ ในวันนี้ทางเราจึงจะมาอธิบายถึงข้อแตกต่าง ระหว่างโซล่าเซลล์ และกังหันลม ว่ามีข้อแตกต่าง รูปแบบการทำงานต่างกันอย่างไรครับ

1. โซล่าเซลล์

- โซล่าเซลล์ทำงานโดยใช้กระบวนการทางฟิสิกส์ที่เรียกว่า "โฟโตวอลเทอิก" (Photovoltaic) เพื่อแปลงพลังงานจากแสงอาทิตย์เป็นพลังงานไฟฟ้า กระบวนการนี้เกิดขึ้นในโครงสร้างพื้นฐานของโซล่าเซลล์ที่เรียกว่าเซลล์โซลาร์ (solar cells) หรือ เซลล์โฟโตวอลเทอิก (Photovoltaic cell)
- โซล่าเซลล์เป็นอุปกรณ์ที่ใช้แปลงพลังงานจากแสงอาทิตย์เป็นพลังงานไฟฟ้าโดยตรง โดยใช้กระบวนการฟอโตโวลไทก์ (Photovoltaic) ซึ่งทำให้โซล่าเซลล์สามารถแปลงพลังงานแสงอาทิตย์เป็นกระแสไฟฟ้าได้
- การทำงานของโซล่าเซลล์ไม่ต้องการการเคลื่อนที่ของสิ่งขับเคลื่อน เพียงแค่มีแสงอาทิตย์เข้าสู่พื้นผิวของโซล่าเซลล์เพียงพอแล้วพลังงานแสงอาทิตย์ก็จะถูกแปลงเป็นพลังงานไฟฟ้า
- เมื่อแสงอาทิตย์ตกลงมาบนพื้นผิวของเซลล์โซลาร์ พลังงานแสงจะกระจายในชั้นทำงาน โดยการกระจายนี้จะสร้างความต่างศักย์ที่ช่วยในการสร้างกระแสไฟฟ้า ซึ่งสามารถถูกนำออกมาใช้ได้ในรูปของพลังงานไฟฟ้าต่อไป นอกจากนี้ โซล่าเซลล์มักถูกเชื่อมต่อเป็นชุดขนาดใหญ่ เพื่อให้ได้พลังงานไฟฟ้ามากพอสำหรับการใช้งานในทุกวัน
2. กังหันลม

- กังหันลมใช้ในการแปลงพลังงานจากลมเป็นพลังงานไฟฟ้า โดยใช้ตัวกังหันหมุนเพื่อขับเคลื่อนเครื่องปั่นไฟฟ้าภายใน ซึ่งตัวกังหันลมจะถูกหมุนด้วยแรงบิดของลมที่ผ่านใบพัด
- การทำงานของกังหันลมต้องการความเคลื่อนที่ของลมเพื่อทำให้ตัวกังหันลมหมุน ซึ่งการหมุนของกังหันลมจะถูกแปลงเป็นพลังงานกล และเมื่อเชื่อมต่อกับเครื่องปั่นไฟฟ้าภายในกังหันลม จะถูกแปลงเป็นพลังงานไฟฟ้า
- การทำงานของกังหันลมมีการใช้เทคโนโลยีที่รวบรวมพลังงานจากลม และแปลงเป็นพลังงานไฟฟ้า ซึ่งเป็นที่นิยมในการใช้เป็นแหล่งพลังงานทดแทนในปัจจุบัน เนื่องจากมีคุณสมบัติที่มีประสิทธิภาพ และมีผลต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุดในการผลิตพลังงานไฟฟ้า