ค้นหา
ความเสียหายของสินค้าที่เกิดจากภัยธรรมชาติ

ความเสียหายของสินค้าที่เกิดจากภัยธรรมชาติ

ผู้เขียนบทความ : At Once
By : At Once

          เนื่องจากการขนส่งระหว่างประเทศนั้น จำเป็นที่จะต้องใช้ระยะเวลาในการเดินทางค่อนข้างนาน ประกอบกับอุปสรรคต่างๆ ในด้านภัยธรรมชาติยังคงถือได้ว่าเป็นสาเหตุหลักที่มีต่อตัวเรือ และ สินค้าบนเรือมากที่สุด เพราะในทุกๆเที่ยวของการเดินทาง นอกจากเมืองท่าหนึ่งไปสู่อีกเมืองท่าหนึ่ง นั้นยังต้องเสี่ยงภัยตลอดเวลา แม้เพียงความมืดก็เป็นสาเหตุของอันตรายต่างๆ ที่ตามมาในทะเล

          ดังนั้นแล้ว จึงควรทำการศึกษาลักษณะเฉพาะของปรากฏการณ์ทางธรรมชาติในแต่ละชนิดรวมถึงผลกระทบต่อการเดินทาง และ การขนส่งสินค้า ซึ่งกระแสลมในสมัยก่อน ชาวเรือใช้ลมสำหรับการเดินทางผ่านทางเรือ ไม่ว่าจะเป็นเรือสินค้า หรือ เรือเพื่อทำการประมง เราจะเรียกลมชนิดนี้ว่าลมสินค้า นอกจากนี้ยังมีลมชนิดอื่นๆซึ่งมีการเรียกเปลี่ยนแปลงไปตามตำแหน่งที่เกิด และ ฤดูกาล หรือ จากกระแสลมที่รุนแรงอย่าง Hurricanes หรือ ใต้ฝุ่น อันก่อให้เกิดภัยต่อการเดินเรือ และ ที่สุดแล้วก็จะเป็นภัยต่อสินค้าระหว่างการขนส่ง พายุนั้น ถือได้ว่าพายุเป็นภัยธรรมชาติ ที่ก่อให้เกิดความเสียหายได้บ่อยครั้งที่สุด อาจจะจำแนกได้ตามความรุนแรง และ สถานที่เกิด เช่นหากเกิดบริเวณ Atlantic เรียกว่า เฮอริเคน หากเกิดบริเวณแปซิฟิกเรียกว่า ใต้ฝุ่น หรือ หากเกิดบริเวณมหาสมุทรอินเดีย เรียกว่า มรสุม

กระแสลมแรง

ขอบคุณภาพจาก:www.bangkokbiznews.com

          กระแสลมแรงดังกล่าวนั้น จะเกิดในช่วงเวลาที่แตกต่างกันออกไป หรือ ที่เราเรียกว่าฤดูกาล ฤดูกาลของเฮอริเคนจะเริ่มต้นจากเดือนมิถุนายนถึงเดือนพฤศจิกายน และ มีความรุนแรงที่สุดในช่วง สิงหาคม-ตุลาคม มีศูนย์กลางอยู่ทางตอนเหนือของอเมริกาใต้ แถบเม็กซิโก (Maxico) ทางด้านตะวันตกของแปซิฟิกก็คือใต้ฝุ่น จะเริ่มจากเดือนพฤษภาคม ถึงเดือน ธันวาคม และ จะมีความรุนแรงที่สุดในเดือน กรกฎาคม-ตุลาคม มีศูนย์กลางอยู่ที่ญี่ปุ่น-จีน รวมถึงด้านเหนือของอินโดนีเซีย และ ถัดไปทางด้านตะวันตกจะมีมรสุมเกิดขึ้นในช่วงเดือนมิถุนายน ถึง เดือนสิงหาคม คลื่น (Wave) ปัจจัยความเสี่ยงอีกอย่างที่เกิดขึ้นจากกระแสลม และ จะมีความรุนแรงขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่เกิดขึ้น กับ ระยะห่างจากชายฝั่ง โดยพายุทั่วไปจะสร้างความยาวคลื่นประมาณ 1,000 ฟุต สามารถมีความสูงมากกว่า 40 ฟุต และ มีความเร็วการเข้าหาฝั่งประมาณ 60 ไมล์ต่อชั่วโมง ความอันตรายของคลื่น จะอยู่ที่การชนของคลื่นกับเรือ ซึ่งสามารถที่จะวัดแรงการชนได้เป็นต้นอาจจะมีความแรงถึง 3 ตันต่อตารางฟุต ส่วนกระแสน้ำ (Current) ถึงแม้กระแสน้ำในมหาสมุทรจะดูราบเรียบ แต่ความจริงแล้วมีความเคลื่อนไหวซ่อนอยู่ ซึ่งเราเรียกว่ากระแสน้ำเย็น และ กระแสน้ำอุ่น จะเป็นประโยชน์ต่อการเดินเรือ หากแล่นตามกระแสน้ำดังกล่าว และ การที่กระแสน้ำทั้งสองสายนั้นมากระทบกัน จะทำให้เกิดหมอกที่เป็นอุปสรรคในการเดินเรือ หมอก (Fog) โดยทั่วไปแล้วหมอกจะเกิดจากความแตกต่างระหว่างอุณหภูมิกับอากาศ และ น้ำ โดยเฉพาะอากาศที่มีความชื้นสูง อันเป็นปัญหาที่ก่อให้เกิดหมอก

แต่อย่างไรก็ตาม หน้าที่การคำนวณความเสี่ยงว่าขนส่งจะสามารถเป็นไปได้น้อยเพียงใด จะก็เป็นหน้าที่ของสายเรือโดยตรง


At-once เองได้รวบรวมรายชื่อบริษัทขนส่งสินค้าทางเรือต่างๆไว้เป็นจำนวนมาก คุณสามารถเข้าไปติดต่อสอบถามข้อมูล การให้บริการต่างๆ กับบริษัทขนส่ง ได้ด้วยตัวเองโดยไม่ต้องผ่านทางเรา เพื่อเป็นการลดขั้นตอนในการติดต่อสื่อสาร ทำให้คุณได้รับข้อมูลได้อย่างรวดเร็วครับ


แชร์บทความ หรือข่าวสาร

Facebook
Line
Mail