ค้นหา
Covid-19 สินค้าส่งออกไทย กลุ่มไหนรุ่ง กลุ่มไหนร่วง ?

Covid-19 สินค้าส่งออกไทย กลุ่มไหนรุ่ง กลุ่มไหนร่วง ?

ผู้เขียนบทความ : At Once
By : At Once

แม้สถานการณ์ปัจจุบันกับไวรัสโคโรน่าที่ยังระบาดอยู่ อาจจะทำให้หลายอย่างยากลำบากมากขึ้น ซึ่งผลของการแพร่ระบาดของ เชื้อไวรัส Covid-19 นั้น ทำให้สถานการณ์ของการนำเข้าและส่งออก เกิดการมีปัญหาและสะดุดไปหลายเดือนจนเป็นปี จนกระทั้งตอนนี้จากความร่วมมือรวมใจของหลายภาคส่วนนั้นที่จะช่วยป้องกันการเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส Covid-19 ดูเหมือนจะมีแนวโน้มที่ดีหลายอย่างของทิศทางการส่งออกไทยในครึ่งปีหลัง ประกอบกัน เศรษฐกิจของประเทศคู่ค้านั้นค่อนข้างดีขึ้นหลังจากคลายมาตรการปิดเมือง วันนี้เราจะมาเจาะลึกว่า สินค้าส่งออกไทยนั้น กลุ่มไหนรุ่งและกลุ่มไหนร่วงกันบ้างครับ


1.กลุ่มสินค้าส่งออกที่ขยายตัวได้ต่อเนื่อง

ก็คงจะหนีไม่พ้นสินค้าในส่วนของภาคการเกษตร และ อาหาร ที่ผู้ประกอบการไทยนั้นเป็นที่นิยมและยอมรับในด้านคุณภาพระดับสากล ได้แก่ เนื้อไก่สดแช่แข็ง เนื้อหมูสดแช่เย็นแช่แข็ง อาหารสัตว์เลี้ยง ผลิตภัณฑ์ปรุงรสอาหาร ผักกระป๋อง และ แปรรูป รวมไปถึงสินค้าอื่นๆในอุตสาหกรรม เช่น เครื่องมือแพทย์ และ ยารักษาโรค โดยสินค้าในกลุ่มดังกล่าวนี้เป็นสินค้าที่การส่งออกนั้นได้มีการขยายตัวได้ดีต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นในช่วงก่อน และ ระหว่างสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสนี้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ยืนยันได้ว่า ประเทศไทยนั้นมีภูมิต้านทานและมีศักยภาพในการผลิตสินค้าข้างต้นเพื่อใช้ในการรองรับความต้องการของตลาดได้ และมีอัตราส่งออกเพิ่มขึ้นถึง 7.5% คิดเป็น 12.7% ของมูลค่าส่งออกสินค้าทั้งหมด


2.กลุ่มสินค้าการส่งออกที่มีความต้องการเพิ่มขึ้นในช่วง Covid-19

เนื่องจากในสถานการณปัจจุบันนี้ยังอยู่ในช่วงของการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส Covid-19 ทุกภาคส่วนนั้นได้ให้ความร่วมมือในการ ล็อกดาวน์ประเทศเพื่อลดการแพร่ระบาด ซึ่งเป็นปัจจัยที่ทำให้คนอาศัยอยู่ในบ้านของตนมากขึ้น เกิดปรากฎการณ์กักตุนสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินชีวิตในประจำวัน สินค้าเป็นที่ต้องการเพิ่มขึ้นในช่วงไวรัสแพร่ระบาดนั้นคือ ข้าวโพด ปลาสดแช่เย็นแช่แข็ง ผลไม้กระป๋องนานาชนิดและแปรรูป ทูน่ากระป๋องและแบบแปรรูป ซุปต่างๆและอาหารปรุงแต่ง


3.กลุ่มสินค้าการส่งออกที่หดตัวในช่วงการแพร่ระบาดของ Covid-19

สินค้าในกลุ่มนี้ ส่วนใหญ่เป็นสินค้าชนิดฟุ่มเฟือย สินค้าแบรนด์เนมต่างๆ อันเนื่องมาจากวิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดมาผันผวนขึ้น และ ไม่สามารถที่จะคาดการณ์ได้ว่าการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสนี้จะสิ้นสุดลงตอนไหน สินค้าที่มีผลกระทบนั้นได้แก่ คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ อัญมณีและเครื่องประดับ เม็ดพลาสติก เคมีภัณฑ์ เครื่องสำอาง รวมถึงเครื่องใช้สำหรับการเดินทาง เป็นต้น


4.กลุ่มสินค้าที่จะฟื้นตัวไตรมาสสุดท้ายของปี 2563

ได้แก่สินค้า ประเภท เครื่องดื่ม พลังงาน เคมีภัณฑ์ เครื่องใช้ไฟฟ้า บรรจุภัณฑ์ อิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วน สินค้าอุปโภค เครื่องจักรกล สินค้าเกษตร เนื่องจากเกิดการฟื้นตัวของเศรษฐกิจหลังในช่วงคลายล็อกดาวน์และการใช้นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อให้เศรษฐกิจฟื้นตัวตามลำดับ

เพราฉะนั้นผู้ประกอบการจึงจำเป็นที่จะต้องปรับตัวมากขึ้นเพื่อรักษาตลาด และรอการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ด้วยการที่ต้องเสาะหาตลาดใหม่ๆเพื่อลดการกระจุกตัวของตลาด


ที่มา: scglogistics

แชร์บทความ หรือข่าวสาร

Facebook
Line
Mail