Programmatic Advertising คือการซื้อขายโฆษณาออนไลน์ผ่านระบบอัตโนมัติที่ใช้เทคโนโลยี AI และ Machine Learning เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายแบบ Real-time ด้วยความแม่นยำสูง ตลอดจนเพิ่มความคุ้มค่าในการลงทุนโฆษณาได้มากขึ้น ซึ่งกลายเป็นเทรนด์ใหม่ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วในวงการโฆษณาดิจิทัล และมีแนวโน้มจะเข้ามามีบทบาทสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ โดยมีรายละเอียดที่น่าสนใจดังนี้
- ระบบการซื้อขายโฆษณาแบบอัตโนมัติ
• Programmatic Ads ใช้ระบบ DSP (Demand Side Platform) ในการรวบรวมพื้นที่โฆษณา (Ad Inventory) จากเว็บไซต์และแอปพลิเคชันต่างๆ มาไว้ในที่เดียว
• โดยผู้ลงโฆษณาสามารถตั้งค่ากลุ่มเป้าหมาย งบประมาณ ระยะเวลา และ KPI ผ่านระบบ DSP แล้วปล่อยให้ระบบประมูลพื้นที่โฆษณาที่เหมาะสมที่สุดโดยอัตโนมัติ
• ทุกครั้งที่มีคนเข้าชมเว็บไซต์ที่มีพื้นที่โฆษณาว่าง ระบบจะทำการประมูลแบบ Real-time ภายในเสี้ยววินาที และแสดงโฆษณาของผู้ที่ชนะการประมูลในทันที
• จึงเป็นการซื้อขายโฆษณาที่รวดเร็ว อัตโนมัติ โปร่งใส และมีประสิทธิภาพสูงกว่าการซื้อขายโฆษณาแบบเดิมๆ หลายเท่าตัว - เจาะกลุ่มเป้าหมายแบบ Personalized
• Programmatic Ads มีความสามารถในการวิเคราะห์ข้อมูลผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตแบบ 1st Party Data และ 3rd Party Data
• 1st Party Data คือข้อมูลที่เว็บไซต์เก็บจากผู้ใช้งานโดยตรง ทั้งข้อมูลประชากร (เพศ อายุ อาชีพ) ข้อมูลการใช้งาน (หน้าเว็บที่เข้าชม ระยะเวลา Clickstream) และข้อมูลอุปกรณ์ (สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต คอมพิวเตอร์)
• 3rd Party Data คือข้อมูลที่ได้จากผู้ให้บริการภายนอก เช่นประวัติการซื้อสินค้า ไลฟ์สไตล์ ความสนใจ การเป็นสมาชิกเว็บต่างๆ ฯลฯ
• การผนวกข้อมูลเหล่านี้เข้าด้วยกัน ช่วยให้ Programmatic Ads สร้างโปรไฟล์ผู้บริโภคที่ละเอียดลึกซึ้ง เข้าใจความต้องการเฉพาะบุคคล และยิงโฆษณาที่ตรงใจได้มากขึ้น - การวัดผลและเพิ่มประสิทธิภาพแบบ Real-time
• Programmatic Ads ทำงานบน Platform ที่เชื่อมต่อข้อมูลแบบ End-to-end ตั้งแต่ต้นทางยันปลายทาง สามารถเก็บและส่งผ่านข้อมูลการโฆษณาได้ตลอดเวลา
• ระบบจะติดตามพฤติกรรมหลังการเห็นโฆษณาของผู้บริโภคแต่ละคน ทั้งการคลิก การเข้าเว็บไซต์ การค้นหาสินค้า ไปจนถึงการซื้อสินค้าจริง ได้แบบ Real-time
• ข้อมูลเชิงลึกเหล่านี้จะถูกนำกลับไปใช้ในการ Optimize แคมเปญแบบทันที ทั้งการปรับข้อความ ภาพ ตำแหน่งโฆษณา กลุ่มเป้าหมาย และการจัดสรรงบประมาณใหม่
• การวัดผลและปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง ช่วยให้โฆษณามีประสิทธิภาพสูงขึ้นเรื่อยๆ มี Conversion Rate ที่ดีขึ้น และใช้เม็ดเงินโฆษณาได้คุ้มค่ามากขึ้นนั่นเอง - ครอบคลุมโฆษณาได้หลากหลายรูปแบบ
• Programmatic Ads สามารถใช้ได้กับโฆษณาออนไลน์แทบทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็น Display Banner, Video, Native Content, Digital billboard ฯลฯ
• นอกจากนี้ยังรองรับการแสดงผลข้ามสื่อ (Cross-Platform) ได้อย่างไร้รอยต่อ ทั้งบนเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน โซเชียลมีเดีย รวมถึง Smart TV ด้วย
• การกระจายโฆษณาในวงกว้างและครอบคลุม จะช่วยสร้างการรับรู้ แรงจดจำ และโน้มน้าวใจผู้บริโภคได้ดียิ่งขึ้น เพื่อบรรลุเป้าหมายทางการตลาดในที่สุด - เพิ่มความปลอดภัยให้กับแบรนด์
• Programmatic Ads มีเครื่องมือ Brand Safety เพื่อป้องกันไม่ให้โฆษณาของแบรนด์ไปปรากฎบนเว็บไซต์ที่ไม่เหมาะสม เช่นเว็บลามกอนาจาร เว็บพนัน เว็บที่มีเนื้อหารุนแรง ฯลฯ
• รวมถึงยังมีระบบ Fraud Detection เพื่อตรวจจับการทุจริตโฆษณาต่างๆ เช่น Bot Traffic, Ad Stacking, Pixel Stuffing, Domain Spoofing เป็นต้น
• จึงช่วยให้แบรนด์มั่นใจได้ว่าโฆษณาจะไปอยู่ในที่ที่ถูกต้อง ปลอดภัย ไม่เสียภาพลักษณ์ และเงินงบประมาณจะไม่สูญเปล่าไปกับ Traffic ที่ไร้คุณภาพอีกด้วย - เติบโตอย่างรวดเร็วและมีแนวโน้มที่ดีในอนาคต
• จากรายงานของ eMarketer พบว่า ตลาด Programmatic Ads ทั่วโลกมีมูลค่ากว่า 418 พันล้านดอลลาร์ในปี 2021 และมีแนวโน้มเติบโตถึง 724 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2026
• ในสหรัฐอเมริกา ประมาณ 88% ของการซื้อขายโฆษณาดิจิทัลทั้งหมดจะผ่านระบบ Programmatic ภายในปี 2021 และจะเพิ่มเป็น 91% ในปี 2023
• ส่วนในเอเชียแปซิฟิก ตลาด Programmatic Ads จะมีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 27% ต่อปี ซึ่งเป็นสัดส่วนที่สูงมากเมื่อเทียบกับภูมิภาคอื่นๆ
• ด้วยความสามารถและศักยภาพมากมายของ Programmatic Ads จึงคาดว่าจะกลายเป็นมาตรฐานใหม่ของวงการโฆษณาออนไลน์ และหลีกเลี่ยงได้ยากสำหรับแบรนด์ที่ต้องการอยู่ในโลกดิจิทัล