ค้นหา
Third Party Logistics (3PL) ตัวช่วยสำคัญในการส่งสินค้าเข้าสู่ Modern Trade อย่างมีประสิทธิภาพ

Third Party Logistics (3PL) ตัวช่วยสำคัญในการส่งสินค้าเข้าสู่ Modern Trade อย่างมีประสิทธิภาพ

โมเดิร์นเทรด (Modern Trade) เป็นคำที่ได้รับความนิยมและเป็นที่รู้จักกันดีในแวดวงธุรกิจมาอย่างยาวนาน เพราะถือเป็นช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้าที่มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตอย่างรวดเร็ว โมเดิร์นเทรดหมายถึงระบบการค้าปลีกยุคใหม่ที่มีองค์กรขนาดใหญ่เป็นศูนย์กลาง ซึ่งมักดำเนินธุรกิจภายใต้โครงสร้างที่เป็นระบบ รองรับสินค้าได้หลากหลายประเภทจากแบรนด์ต่าง ๆ และมีพื้นที่การขายขนาดใหญ่เพื่อให้บริการลูกค้าจำนวนมาก
Third Party Logistics (3PL) ตัวช่วยสำคัญในการส่งสินค้าเข้าสู่ Modern Trade อย่างมีประสิทธิภาพ

ประเภทของ Modern Trade ในประเทศไทย

ธุรกิจ Modern Trade ในประเทศไทยสามารถจำแนกออกเป็น 5 ประเภทหลัก ดังนี้

1. ห้างสรรพสินค้า (Department Store) เป็นศูนย์รวมสินค้าหลากหลายประเภท เช่น สินค้าอุปโภคบริโภค เสื้อผ้า เครื่องสำอาง และบริการเสริมต่าง ๆ เช่น ร้านอาหารหรือโรงภาพยนตร์ ห้างสรรพสินค้าที่เป็นที่รู้จัก ได้แก่ Central, Siam Paragon, EmQuartier

2. ห้างค้าปลีกขนาดใหญ่ (Hypermarket) ลักษณะคล้ายห้างสรรพสินค้า แต่เน้นไปที่สินค้าจำเป็นในชีวิตประจำวัน เช่น อาหารสด อาหารแห้ง และของใช้ในบ้าน ตัวอย่างเช่น Lotus's, Big C, Makro

3. ซูเปอร์มาร์เก็ต (Supermarket) ร้านค้าปลีกที่ให้บริการสินค้าอุปโภคบริโภคเหมือน Hypermarket แต่มีขนาดเล็กกว่าและมีสินค้าหลากหลายน้อยกว่า ตัวอย่างเช่น Tops Supermarket, Villa Market, Gourmet Market

4. ร้านค้าขายสินค้าเฉพาะทาง (Specialty Store) เป็นร้านค้าที่เน้นจำหน่ายสินค้าเฉพาะกลุ่ม เช่น เครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพ หรืออุปกรณ์ไอที ตัวอย่างเช่น Watsons, Boots, Eveandboy

5. ร้านสะดวกซื้อ (Convenience Store) ร้านค้าปลีกขนาดเล็กที่ตั้งอยู่ในย่านชุมชน มีสินค้าอุปโภคบริโภค อาหารพร้อมทาน และของใช้จำเป็นในชีวิตประจำวัน ตัวอย่างเช่น 7-Eleven, Family Mart, Lawson 108

ในยุคที่การแข่งขันทางธุรกิจทวีความเข้มข้น การนำสินค้าเข้าสู่ โมเดิร์นเทรด (Modern Trade) กลายเป็นหนึ่งในเป้าหมายสำคัญของหลายธุรกิจ เพราะช่วยเปิดโอกาสให้แบรนด์เติบโตและขยายตลาดได้อย่างรวดเร็วทั่วประเทศ อย่างไรก็ตาม การเข้าสู่ช่องทางจัดจำหน่ายนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย เนื่องจากธุรกิจต้องเผชิญกับอุปสรรคและความท้าทายหลายประการที่อาจเป็นอุปสรรคต่อความสำเร็จ


ความท้าทายในการนำสินค้าเข้าสู่ Modern Trade

Third Party Logistics (3PL) ตัวช่วยสำคัญในการส่งสินค้าเข้าสู่ Modern Trade อย่างมีประสิทธิภาพ

1. ต้นทุนสูงและมาตรฐานการคัดเลือกที่เข้มงวด
การนำสินค้าเข้าสู่ โมเดิร์นเทรด มักมีค่าใช้จ่ายหลายด้าน เช่น ค่าดำเนินการ ค่าคลังสินค้า ค่าขนส่ง และค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ซึ่งอาจเป็นอุปสรรคสำคัญสำหรับธุรกิจขนาดเล็กที่มีงบประมาณจำกัด นอกจากนี้ โมเดิร์นเทรดยังมีมาตรฐานที่เข้มงวดในการคัดเลือกสินค้า ไม่ว่าจะเป็นคุณภาพสินค้า บรรจุภัณฑ์ หรือภาพลักษณ์ของแบรนด์
2. การแข่งขันสูงและความต้องการสินค้าที่หลากหลาย
เนื่องจากหลายธุรกิจต้องการวางจำหน่ายสินค้าในโมเดิร์นเทรด ทำให้เกิดการแข่งขันที่รุนแรง ธุรกิจจำเป็นต้องสร้างความแตกต่างและจุดแข็งที่ชัดเจนเพื่อให้โดดเด่นเหนือคู่แข่ง อีกทั้งยังต้องปรับตัวให้เข้ากับแนวโน้มตลาดและจัดหาสินค้าที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายของผู้บริโภค
3. ข้อจำกัดด้านบุคลากรและเทคโนโลยี
การบริหารจัดการด้านซัพพลายเชนและโลจิสติกส์จำเป็นต้องอาศัยบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญ รวมถึงเทคโนโลยีที่ทันสมัย ธุรกิจที่ขาดทรัพยากรเหล่านี้อาจเผชิญกับความท้าทายในการดำเนินงานและอาจส่งผลกระทบต่อความสามารถในการแข่งขัน
4. ระบบโลจิสติกส์ที่ซับซ้อน
โมเดิร์นเทรดแต่ละแห่งมีมาตรฐานและข้อกำหนดที่แตกต่างกัน ธุรกิจจึงต้องมีระบบโลจิสติกส์ที่สามารถรองรับกระบวนการที่ซับซ้อน ไม่ว่าจะเป็นการบริหารสต็อก การขนส่ง การติดตามสินค้า และการจัดทำเอกสารต่าง ๆ ให้สอดคล้องกับข้อกำหนดของแต่ละช่องทางจำหน่าย


3PL ตัวช่วยสำคัญในการกระจายสินค้าเข้าสู่ Modern Trade อย่างมีประสิทธิภาพ

Third Party Logistics (3PL) เป็นทางเลือกที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถบริหารจัดการการกระจายสินค้าเข้าสู่ Modern Trade ได้อย่างเป็นระบบ ครอบคลุมตั้งแต่ การจัดเก็บสินค้า การบริหารคลังสินค้า การจัดการคำสั่งซื้อ ไปจนถึงการขนส่งสินค้าสู่หน้าร้าน ด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของผู้ให้บริการ 3PL ธุรกิจสามารถลดต้นทุนด้านโลจิสติกส์ เพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน และลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในการส่งสินค้าเข้าสู่ช่องทางโมเดิร์นเทรด ทำให้ธุรกิจโดยเฉพาะอุตสาหกรรมอาหารสามารถแข่งขันได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

Third Party Logistics (3PL) คืออะไร?

Third Party Logistics (3PL) หรือที่เรียกกันว่า ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ภายนอก เป็นบริษัทที่เข้ามาช่วยธุรกิจจัดการกระบวนการโลจิสติกส์บางส่วนหรือทั้งหมดตามข้อตกลง ถือเป็นรูปแบบ Outsourcing ที่ช่วยเพิ่มความคล่องตัวให้กับธุรกิจ โดยบริการของ 3PL ครอบคลุมหลายด้าน เช่น
1. การบริหารจัดการคลังสินค้า (Warehouse Management) – จัดเก็บสินค้า บริหารสต็อก และควบคุมคุณภาพสินค้า
2. การขนส่ง (Transportation) – กระจายสินค้าไปยังปลายทางอย่างมีประสิทธิภาพ
3. โลจิสติกส์ย้อนกลับ (Reverse Logistics) – การจัดการสินค้าส่งคืนหรือกระบวนการรีไซเคิล
4. บริการอื่น ๆ (Other Services) – เช่น การดำเนินพิธีการศุลกากร การจัดทำเอกสาร หรือบริการเสริมด้านโลจิสติกส์
บริการจาก 3PL ช่วยให้ธุรกิจสามารถโฟกัสกับการดำเนินงานหลักได้มากขึ้น ลดภาระการจัดการด้านโลจิสติกส์ และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน

ข้อดีของการใช้บริการ Third Party Logistics (3PL)

1. ช่วยลดต้นทุนด้านโลจิสติกส์ การใช้บริการ Third Party Logistics (3PL) ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการจัดการโลจิสติกส์ ไม่ว่าจะเป็นค่าเช่าพื้นที่คลังสินค้า ค่าจ้างพนักงาน ค่าขนส่ง หรือค่าดำเนินการด้านระบบโลจิสติกส์ ทำให้ธุรกิจสามารถจัดการงบประมาณได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

2. ความยืดหยุ่นในการปรับระบบโลจิสติกส์ ผู้ให้บริการ 3PL สามารถปรับรูปแบบและขนาดของการให้บริการตามความต้องการของธุรกิจได้อย่างยืดหยุ่น ช่วยให้สามารถตอบสนองต่อความเปลี่ยนแปลงของตลาดและปริมาณสินค้าที่ต้องจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพ

3. เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการสต็อกสินค้า ด้วยความเชี่ยวชาญของ 3PL ในด้านการบริหารคลังสินค้า ทำให้ธุรกิจสามารถจัดการสต็อกสินค้าได้อย่างเป็นระบบ ลดปัญหาสินค้าค้างสต็อกหรือสินค้าหมดก่อนเวลา ช่วยลดความสูญเสียและเพิ่มความแม่นยำในการบริหารสินค้า

4. บริการครบวงจร ลดภาระธุรกิจ 3PL ให้บริการตั้งแต่ การรับสินค้า การจัดเก็บ การขนส่ง ไปจนถึงการติดตามสินค้า ทำให้ธุรกิจสามารถโฟกัสกับการดำเนินงานหลักโดยไม่ต้องจัดการระบบโลจิสติกส์เอง ลดความยุ่งยากและเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจ

5. ใช้เทคโนโลยีล้ำสมัยเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ บริษัท 3PL มักใช้ เทคโนโลยีโลจิสติกส์ เช่น ระบบติดตามสินค้า (Tracking System) และซอฟต์แวร์บริหารจัดการคลังสินค้า (Warehouse Management System) ซึ่งช่วยลดความผิดพลาดในการขนส่ง และเพิ่มความรวดเร็วในการจัดส่งสินค้า


Food Pipeline บริการขนส่งควบคุมอุณหภูมิ By Konoike

Third Party Logistics (3PL) ตัวช่วยสำคัญในการส่งสินค้าเข้าสู่ Modern Trade อย่างมีประสิทธิภาพ

Food Pipeline เป็นบริการ ขนส่งควบคุมอุณหภูมิ (Cold Chain Logistics) ที่ช่วยให้ธุรกิจหรืออุตสาหกรรมอาหารสามารถส่งสินค้าเข้าสู่ Modern Trade ได้อย่างรวดเร็ว ตรงเวลา และปลอดภัย ด้วยกระบวนการลำเลียงสินค้าจากโรงงานสู่หน้าร้านโมเดิร์นเทรดผ่านระบบโลจิสติกส์ที่มีการควบคุมในระบบปิดระหว่างธุรกิจกับธุรกิจ

ระบบการจัดการ คลังสินค้า (WMS) และ การขนส่ง (TMS) เชื่อมต่ออย่างไร้รอยต่อ (Seamless Connection) กับทุกช่องทางการจัดจำหน่ายโมเดิร์นเทรดทั่วประเทศ ช่วยรักษาคุณภาพสินค้าให้อยู่ในสภาพที่ดีที่สุดตลอดการขนส่ง โดยได้รับการรับรองมาตรฐานสากล เช่น GMP และ HACCP การเชื่อมต่อข้อมูลแบบ เรียลไทม์ (Visible Process) ทำให้ธุรกิจสามารถตรวจสอบสถานะการขนส่งสินค้าได้ตลอดเวลา รวมถึงการติดตามผ่าน GPS Tracking ช่วยเพิ่มความมั่นใจในกระบวนการขนส่ง บริการนี้ยังช่วย ลดต้นทุน การกระจายสินค้า ด้วยการแชร์ค่าขนส่งระหว่างธุรกิจที่มีจุดหมายปลายทางเดียวกัน

หากธุรกิจของคุณต้องการบริการ Cold Chain Logistics ที่เชื่อถือได้ Cogistics คือพาร์ทเนอร์ที่สามารถดูแลธุรกิจอาหารของคุณด้วยโซลูชั่น Food Pipeline ที่มีประสิทธิภาพ สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ทางโทรศัพท์ 02-337-3013 Sales Department  : 063-269-0135  คุณสมคิด Sales Department : 061-393-7998  คุณมินนี่  Line id : @495apobz หรือ อีเมล [email protected]

แชร์บทความ หรือข่าวสาร

Facebook
Line
Mail

บทความที่เกี่ยวข้อง