ในยุคปัจจุบันที่การทำธุรกิจไม่ได้จำกัดเพียงภายในประเทศ การเดินทางข้ามพรมแดนเพื่อดำเนินธุรกิจ กลายเป็นเรื่องจำเป็นสำหรับนักธุรกิจทั่วโลก "วีซ่าทำงาน" หรือที่หลายคนเรียกกันว่า Work Visa จึงเป็นเครื่องมือสำคัญที่เปิดโอกาสให้นักธุรกิจต่างชาติสามารถเข้ามาประกอบธุรกิจหรือทำงานในประเทศอื่นได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย
วีซ่าทำงานของนักธุรกิจต่างชาติ คือ เอกสารอนุญาตที่ออกโดยรัฐบาลของประเทศปลายทาง เพื่อให้นักธุรกิจจากต่างประเทศสามารถเข้ามาดำเนินกิจกรรมทางธุรกิจหรือทำงานได้อย่างถูกกฎหมาย การถือวีซ่าทำงานไม่ใช่เพียงการเดินทางเข้าไปเท่านั้น แต่ยังเป็นการแสดงสถานะที่ถูกต้องในการประกอบธุรกิจต่างๆโดยวีซ่าประเภทนี้จะครอบคลุมตั้งแต่
- การตั้งบริษัทหรือลงทุนในประเทศนั้น
- การเจรจาทางการค้าและทำสัญญาธุรกิจ
- การเข้าร่วมประชุม สัมมนา หรือฝึกอบรมเชิงธุรกิจ
- การเข้ารับตำแหน่งบริหารในองค์กรข้ามชาติ
ทำไมนักธุรกิจถึงต้องมีวีซ่าทำงาน?
- ปฏิบัติตามกฎหมาย นักธุรกิจที่ทำงานหรือลงทุนในต่างประเทศโดยไม่มีวีซ่าทำงานที่ถูกต้อง อาจถูกปรับ ถูกเนรเทศ หรือขึ้นบัญชีดำไม่ให้เข้าประเทศนั้นอีก
- สร้างความน่าเชื่อถือ การถือวีซ่าทำงานช่วยเสริมความน่าเชื่อถือในการทำธุรกิจ และการเจรจากับคู่ค้าหรือสถาบันการเงิน
- สิทธิประโยชน์เพิ่มเติม ในบางประเภทของวีซ่าทำงานเปิดโอกาสให้ขอวีซ่าครอบครัว การซื้ออสังหาริมทรัพย์หรือใช้บริการธนาคารได้สะดวกขึ้น
- เสริมโอกาสการขยายกิจการ การมีสถานะที่ถูกต้องทำให้สามารถเข้าถึงโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ เช่น สมัครรับสิทธิประโยชน์ทางภาษีหรือการเข้าร่วมโครงการสนับสนุนของรัฐ

ประเภทของวีซ่าทำงานสำหรับนักธุรกิจในประเทศไทย
ประเทศไทยถือเป็นหนึ่งในศูนย์กลางธุรกิจสำคัญของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยเศรษฐกิจที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง นโยบายเปิดรับนักลงทุน และโอกาสทางธุรกิจที่หลากหลาย เพื่อรองรับนักธุรกิจต่างชาติ รัฐบาลไทยจึงมีการจัดประเภทวีซ่าทำงานหลายรูปแบบที่ตอบโจทย์ความต้องการแตกต่างกัน
1. Non-Immigrant Visa “B” (Business Visa)
Non-B Visa เป็นประเภทวีซ่าหลักที่นักธุรกิจต่างชาติใช้เพื่อ
- ทำงานในบริษัทที่จดทะเบียนในไทย
- ประกอบกิจกรรมทางธุรกิจ เช่น การประชุม เจรจาธุรกิจ ลงนามสัญญา
- จัดตั้งบริษัทใหม่ในประเทศไทย
จุดเด่น
- ต้องมีหนังสือเชิญจากบริษัทในไทย หรือมีเอกสารแสดงการดำเนินธุรกิจในไทย
- เมื่อได้รับวีซ่าแล้วจำเป็นต้องขอใบอนุญาตทำงาน (Work Permit) เพิ่มเติม
2. SMART Visa
SMART Visa เป็นประเภทวีซ่าพิเศษที่รัฐบาลไทยออกแบบมาเพื่อดึงดูดนักลงทุน ผู้ประกอบการ Startup ผู้เชี่ยวชาญ และผู้บริหารระดับสูง โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมเป้าหมาย เช่น เทคโนโลยี พลังงานสะอาด สุขภาพ ฯลฯ
- กลุ่ม SMART Visa ที่เกี่ยวกับนักธุรกิจ ได้แก่
- SMART I (Investor) สำหรับนักลงทุนที่ลงทุนในบริษัทที่ได้รับการรับรอง
- SMART S (Startup Entrepreneur) สำหรับผู้ที่จัดตั้งธุรกิจ Startup ในประเทศไทย
จุดเด่น
- ไม่ต้องขอใบอนุญาตทำงานแยกต่างหาก
- อยู่ในไทยได้สูงสุด 4 ปี
- อนุญาตให้ครอบครัว (คู่สมรสและบุตร) อยู่ด้วยได้
3. Non-Immigrant Visa “IB” (Investment and Business Visa)
- วีซ่า IB ถูกออกแบบมาเพื่อสนับสนุนนักลงทุนต่างชาติที่ต้องการ
- จัดตั้งธุรกิจในอุตสาหกรรมที่ได้รับการส่งเสริมโดยสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI)
- ลงทุนในโครงการที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ เช่น เทคโนโลยีขั้นสูงและ นวัตกรรมใหม่
จุดเด่น
มักได้รับสิทธิพิเศษเพิ่มเติม เช่น การลดหย่อนภาษี หรือการอนุญาตให้นำเข้าแรงงานต่างชาติ
4. Long-Term Resident Visa (LTR Visa)
เปิดตัวอย่างเป็นทางการในปี 2022 วีซ่า LTR เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักธุรกิจต่างชาติที่ต้องการอยู่ไทยระยะยาว
กลุ่มที่เกี่ยวกับนักธุรกิจ ได้แก่
- Wealthy Global Citizens นักลงทุนระดับสูง
- Work-From-Thailand Professionals ผู้บริหารองค์กรต่างประเทศที่ต้องการบริหารงานจากประเทศไทย
- Wealthy Pensioners และ Highly-Skilled Professionals มีสิทธิทำงานในบางกรณี
จุดเด่น
- อยู่ได้สูงสุด 10 ปี
- มีสิทธิพิเศษด้านภาษี เช่น เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในอัตรา 17%
- อนุญาตให้คู่สมรสและบุตรติดตามมาได้

ทำไมต้องเป็น “เดือนพฤษภาคม”
สำหรับนักธุรกิจที่กำลังมองหาการขยายโอกาสในประเทศไทย เดือนพฤษภาคม ถือเป็นหนึ่งในช่วงเวลาที่ดีที่สุดของปีในการยื่นขอวีซ่าทำงาน หรือวีซ่าธุรกิจ ด้วยหลายปัจจัยที่เอื้อต่อความสำเร็จอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นจังหวะทางเศรษฐกิจ กฎระเบียบของประเทศต่างๆ นโยบายสนับสนุนจากภาครัฐ ซึ่งถือว่าเป็นโอกาสทองสำหรับการยื่นขอวีซ่าทำงานในไทยอย่างแท้จริง
1. ช่วงเวลาหลังสงกรานต์ถือเป็นจุดเริ่มต้นธุรกิจใหม่
หลังเทศกาลสงกรานต์ในเดือนเมษายน ซึ่งถือเป็นวันหยุดยาวสำคัญของไทย ภาคธุรกิจส่วนใหญ่จะเริ่มกลับมาดำเนินกิจกรรมอย่างเต็มรูปแบบในเดือนพฤษภาคม บริษัทต่างๆ มักเร่งขยายกิจการ จ้างงาน และเปิดรับโปรเจกต์ใหม่ๆ จึงเป็นช่วงที่มี ความต้องการแรงงานต่างชาติระดับมืออาชีพและนักลงทุนสูงขึ้นกว่าช่วงต้นปี
2. รัฐบาลเร่งส่งเสริมการลงทุนต่างชาติ
ในปี 2025 รัฐบาลไทยมีนโยบายเร่งส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศอย่างจริงจัง เช่น
- การปรับปรุงเงื่อนไขการขอวีซ่าและใบอนุญาตทำงานให้ง่ายขึ้นสำหรับนักธุรกิจ
- การผลักดันโครงการ EEC (Eastern Economic Corridor) และเขตเศรษฐกิจพิเศษ ที่มอบสิทธิประโยชน์ด้านวีซ่า
- การเปิดโครงการวีซ่าระยะยาวพิเศษ (Long-Term Resident Visa) สำหรับนักลงทุน, ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีและผู้บริหารระดับสูง
- เดือนพฤษภาคมมักเป็นช่วงที่หน่วยงานภาครัฐเร่งดำเนินมาตรการเหล่านี้อย่างเข้มข้น เพื่อผลักดันเศรษฐกิจครึ่งปีหลัง
3. โควต้าวีซ่าและ Work Permit ยังเปิดกว้าง
โควตาวีซ่าทำงาน และ Work Permit ของไทยไม่ได้เต็มเร็วเท่าบางประเทศ แต่การยื่นช่วงต้นของกลางปีอย่างเดืนอพฤษภาคมจะได้เปรียบเรื่อง
- เวลาพิจารณาเอกสารที่รวดเร็วกว่า
- มีตำแหน่งงานรองรับมากกว่า
- ลดโอกาสแออัดของระบบในช่วงปลายปี
นักธุรกิจที่วางแผนมาดำเนินกิจกรรมในไทย จึงสามารถใช้ช่วงเวลานี้วางรากฐานให้ธุรกิจได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
4. สภาพอากาศเอื้ออำนวยต่อการดำเนินธุรกิจ
แม้ปลายเดือนพฤษภาคมจะเริ่มเข้าสู่ฤดูฝนของประเทศไทย แต่ต้นเดือนพฤษภาคมยังคงมีสภาพอากาศที่ร้อนและแห้ง ซึ่งเหมาะสำหรับการเดินทาง การพบปะเจรจาทางธุรกิจ และการดำเนินเอกสารราชการโดยไม่ติดขัดจากสภาพอากาศ

ดังนั้นเดือนพฤษภาคมในประเทศไทย เป็นช่วงเวลาที่ลงตัวที่สุดสำหรับนักธุรกิจต่างชาติที่ต้องการเริ่มต้นธุรกิจใหม่หรือขยายการลงทุน ด้วยนโยบายเปิดกว้าง โอกาสทางธุรกิจที่หลากหลาย และระบบราชการที่กำลังเร่งสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจ นักธุรกิจที่มองเห็นโอกาสและลงมือยื่นวีซ่าในช่วงเวลานี้ จะสามารถสร้างความได้เปรียบเชิงกลยุทธ์ในตลาดไทยได้เป็นอย่างดี
ทั้งนี้การขอวีซ่าทำงานในประเทศไทยมีหลายขั้นตอนที่ค่อนข้างซับซ้อนและเอกสารที่ต้องอาศัยความรอบคอบ ผู้ที่ต้องการขอวีซ่าทำงานจึงควรศึกษาข้อมูลและเตรียมเอกสารให้ครบถ้วนก่อนดำเนินการ เพื่อให้กระบวนการเป็นไปอย่างราบรื่นและถูกต้องตามกฎหมาย แต่อย่างไรก็ตามการขอวีซ่าทุกประเภทจะเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น หากใช้บริการจากบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญและมีมาตรฐานในการให้บริการอย่าง บริษัท เอ.เอ็น.เอ็ม.2219 บิสซิเนส จำกัด

บริษัท เอ.เอ็น.เอ็ม.2219 บิสซิเนส จำกัด เป็นผู้ให้บริการดำเนินการขอใบอนุญาตทำงานและวีซ่าทำงาน ให้กับชาวต่างชาติที่เข้ามาทำงานในประเทศไทย ดำเนินการเปลี่ยนวีซ่าทุกประเภทและต่อวีซ่าทำงาน ให้กับชาวต่างชาติ โดยทีมงานที่มีประสบการณ์ตรงด้วยมาตราฐานและตามระเบียบข้อบังคับอย่างถูกต้อง และยังมีอีกหลากหลายบริการ สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลได้ที่
เบอร์โทรศัพท์: 02-115-2778
Line ID: anm2219
Facebook: ใบอนุญาตทำงานวีซ่าทำงานในประเทศไทย
Website: A.N.M.2219 BUSINESS CO., LTD.
Website Profile: บริษัท เอ.เอ็น.เอ็ม.2219 บิสซิเนส จำกัด