ค้นหา
E-commerce Marketing ขายสินค้าออนไลน์ให้ปัง

E-commerce Marketing ขายสินค้าออนไลน์ให้ปัง

ผู้เขียนบทความ : At Once
By : At Once

การตลาดอีคอมเมิร์ซ (E-commerce Marketing) เป็นการนำกลยุทธ์ทางการตลาดมาปรับใช้ในโลกออนไลน์ เพื่อสร้างการเข้าถึงผู้บริโภค ดึงดูดความสนใจ และเพิ่มยอดขายผ่านช่องทางดิจิทัล โดยเฉพาะในยุคที่การซื้อขายออนไลน์เติบโตอย่างรวดเร็ว กลยุทธ์การตลาดที่แข็งแกร่งและการบริหารจัดการที่ดีเป็นหัวใจสำคัญในการแข่งขัน สำหรับการทำการตลาดใน E-commerce นั้น ประกอบไปด้วยหลายเทคนิคที่ช่วยเสริมสร้างความสำเร็จในการขายสินค้าออนไลน์ ทั้งการสร้างเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือ การใช้กลยุทธ์ Remarketing เพื่อดึงดูดลูกค้า และการจัดการกับปัญหาตะกร้าสินค้าที่ถูกทิ้งอย่างมีประสิทธิภาพ


สร้างหน้าร้านค้าออนไลน์ที่น่าเชื่อถือ

การสร้างความน่าเชื่อถือ สำหรับร้านค้าออนไลน์เป็นขั้นตอนแรกที่สำคัญมาก เนื่องจากความน่าเชื่อถือจะเป็นปัจจัยที่ทำให้ลูกค้าตัดสินใจเลือกซื้อสินค้ากับคุณ ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบเว็บไซต์, การจัดแสดงข้อมูลสินค้า, หรือการให้บริการลูกค้า ล้วนมีบทบาทสำคัญ

ขายสินค้าออนไลน์

  • การออกแบบเว็บไซต์ที่เป็นมิตรกับผู้ใช้ (User-Friendly Design): การออกแบบหน้าร้านออนไลน์ควรคำนึงถึงความง่ายในการใช้งาน (user experience) ผู้เข้าชมควรสามารถค้นหาสินค้าที่ต้องการได้ง่าย และการทำขั้นตอนการสั่งซื้อควรชัดเจนและไม่ซับซ้อน เว็บไซต์ควรมีการแสดงผลที่ดีทั้งบนอุปกรณ์มือถือและคอมพิวเตอร์ (responsive design) เพราะการซื้อขายผ่านมือถือเป็นที่นิยมอย่างมาก
  • ข้อมูลสินค้าที่ครบถ้วนและชัดเจน: การนำเสนอข้อมูลสินค้าที่ละเอียด เช่น รายละเอียดผลิตภัณฑ์, ขนาด, ราคา และเงื่อนไขการจัดส่ง จะช่วยให้ลูกค้ารู้สึกมั่นใจในสินค้าที่จะซื้อ รวมถึงภาพสินค้าที่มีคุณภาพสูงและแสดงให้เห็นถึงความเป็นจริงก็มีความสำคัญต่อการสร้างความเชื่อมั่นเช่นกัน
  • ระบบการชำระเงินที่ปลอดภัย: การแสดงให้ลูกค้าเห็นถึงระบบความปลอดภัยในการชำระเงิน เช่น การใช้ SSL (Secure Sockets Layer) หรือการแสดงโลโก้ของพันธมิตรการชำระเงินที่เชื่อถือได้ ช่วยเสริมสร้างความมั่นใจในกระบวนการซื้อขาย
  • รีวิวและคำแนะนำจากผู้ซื้อ: การมีรีวิวจากลูกค้าที่เคยซื้อสินค้าจะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือและเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจของลูกค้ารายใหม่ได้อย่างมาก การที่ลูกค้าเห็นว่ามีผู้ซื้ออื่นๆ ได้รับสินค้าจริงและแสดงความคิดเห็นในเชิงบวกจะสร้างความมั่นใจในการเลือกซื้อสินค้ามากขึ้น




ใช้กลยุทธ์ Remarketing เพื่อดึงลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำ

Remarketing หรือการตลาดเชิงติดตาม เป็นกลยุทธ์ที่ใช้ดึงดูดลูกค้าที่เคยเข้าชมเว็บไซต์หรือเคยซื้อสินค้ากับคุณให้กลับมาซื้อซ้ำ กลยุทธ์นี้มีประสิทธิภาพอย่างยิ่งในการเพิ่มยอดขายและรักษาฐานลูกค้าเดิม เพราะการขายให้กับลูกค้าเก่านั้นใช้ต้นทุนน้อยกว่าการหาลูกค้าใหม่

ขายสินค้าออนไลน์

  • การติดตามผู้เข้าชมที่ยังไม่ซื้อสินค้า: เมื่อลูกค้าเข้าชมสินค้าในเว็บไซต์ของคุณแต่ไม่ได้ทำการสั่งซื้อทันที คุณสามารถใช้ Remarketing เพื่อแสดงโฆษณาสินค้าที่พวกเขาเคยเข้าชมผ่านทางแพลตฟอร์มอื่น เช่น Facebook หรือ Google Ads วิธีนี้ช่วยกระตุ้นความสนใจและทำให้ลูกค้าที่อาจจะลังเล กลับมาพิจารณาสินค้าของคุณอีกครั้ง
  • การส่งอีเมลติดตามลูกค้า (Email Remarketing): การส่งอีเมลติดตามลูกค้าหลังจากที่พวกเขาเข้าชมสินค้าแล้วไม่ได้ทำการสั่งซื้อ หรือหลังจากที่ทำการซื้อสินค้าเสร็จแล้ว สามารถช่วยกระตุ้นให้พวกเขากลับมาซื้อสินค้าซ้ำได้ โดยเฉพาะการเสนอโปรโมชั่นหรือส่วนลดพิเศษเพื่อดึงดูดให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อซ้ำ
  • การสร้างข้อเสนอพิเศษสำหรับลูกค้าเก่า: การมอบข้อเสนอพิเศษ เช่น ส่วนลดพิเศษสำหรับลูกค้าเก่า หรือการเปิดตัวสินค้าก่อนใคร จะทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าได้รับการดูแลเป็นพิเศษ และมีโอกาสที่พวกเขาจะกลับมาซื้อสินค้าจากคุณมากขึ้น




การจัดการกับตะกร้าสินค้าที่ถูกทิ้ง

ปัญหาตะกร้าสินค้าที่ถูกทิ้ง หรือ Cart Abandonment คือสถานการณ์ที่ลูกค้าเลือกสินค้าลงในตะกร้าแล้ว แต่สุดท้ายไม่ได้ทำการชำระเงิน ซึ่งเป็นหนึ่งในปัญหาที่พบได้บ่อยใน E-commerce แม้ว่าลูกค้าจะแสดงความสนใจในสินค้าแล้ว แต่บางครั้งก็อาจจะยังไม่ตัดสินใจซื้อ วิธีการจัดการกับปัญหานี้จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้ขายต้องให้ความสนใจ

ขายสินค้าออนไลน์

  • การส่งอีเมลแจ้งเตือน: หนึ่งในวิธีที่มีประสิทธิภาพคือการส่งอีเมลเตือนลูกค้าเกี่ยวกับสินค้าที่พวกเขาได้ทิ้งไว้ในตะกร้า โดยอาจจะส่งลิงก์เพื่อให้พวกเขากลับไปที่ตะกร้าและดำเนินการซื้อสินค้าได้ทันที นอกจากนี้ยังสามารถเสนอลดราคาพิเศษหรือบริการจัดส่งฟรีเพื่อจูงใจให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อในทันที
  • การลดขั้นตอนการชำระเงิน: ขั้นตอนการชำระเงินที่ซับซ้อนหรือยาวเกินไปเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ลูกค้าทิ้งตะกร้าสินค้า ผู้ขายควรพิจารณาปรับปรุงขั้นตอนการชำระเงินให้กระชับและรวดเร็ว โดยอนุญาตให้ลูกค้าชำระเงินโดยไม่ต้องสมัครสมาชิก หรือใช้วิธีการชำระเงินที่สะดวกสำหรับลูกค้า
  • การแสดงค่าจัดส่งล่วงหน้า: หลายครั้งที่ลูกค้าตัดสินใจทิ้งตะกร้าสินค้าเพราะพบว่าค่าจัดส่งสูงเกินไปหลังจากถึงขั้นตอนสุดท้าย การแสดงค่าจัดส่งล่วงหน้า หรือการจัดโปรโมชั่นจัดส่งฟรีเมื่อยอดซื้อถึงเกณฑ์ จะช่วยลดโอกาสที่ลูกค้าจะทิ้งตะกร้าสินค้า
  • ข้อเสนอพิเศษแบบจำกัดเวลา: การสร้างแรงจูงใจให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อในทันที เช่น การเสนอส่วนลดที่มีเวลาจำกัด หรือข้อเสนอพิเศษที่ใช้ได้เฉพาะการสั่งซื้อในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง สามารถกระตุ้นให้ลูกค้าทำการซื้อสินค้าทันที


การทำการตลาด E-commerce ให้ประสบความสำเร็จนั้นขึ้นอยู่กับการวางกลยุทธ์ที่ดีและการพัฒนาประสบการณ์ผู้ใช้ให้ดีที่สุด การสร้างเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือ การใช้ Remarketing เพื่อดึงลูกค้ากลับมา และการจัดการกับตะกร้าสินค้าที่ถูกทิ้งเป็นองค์ประกอบสำคัญที่จะช่วยเพิ่มยอดขายและสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าได้อย่างยั่งยืน






ทาง  At-once  เองนั้น เป็น Website รวบรวมรายชื่อบริษัทที่ให้บริการในส่วนต่างๆ รวมถึง  บริษัทรับทำการตลาด การตลาดออนไลน์ ปรึกษาการตลาดออนไลน์ ทำการตลาดออนไลน์  และ วางแผนการตลาด  คุณสามารถเข้ามายัง Website ของเรา เพื่อทำการติดต่อสอบถามกับบริษัทที่คุณสนใจได้ด้วยโดยตรง โดยไม่ผ่านทางเรา ซึ่งทำให้คุณสะดวกต่อการใช้บริการมากที่สุด และ ไม่มีค่าใช้จ่ายครับ และสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลต่างๆได้ที่ Facebook

แชร์บทความ หรือข่าวสาร

Facebook
Line
Mail