ค้นหา
เลือกเครื่องมือสว่านไฟฟ้าอย่างไรให้เหมาะกับงานก่อสร้างแต่ละประเภท

เลือกเครื่องมือสว่านไฟฟ้าอย่างไรให้เหมาะกับงานก่อสร้างแต่ละประเภท

ในอุตสาหกรรมก่อสร้าง เครื่องมือช่างไม่ได้เป็นเพียง "อุปกรณ์" แต่คือ "หัวใจ" ของการทำงานให้เสร็จทันเวลาและได้มาตรฐาน โดยเฉพาะ "สว่านไฟฟ้า" ที่ดูเหมือนเป็นอุปกรณ์พื้นฐาน แต่หากเลือกผิดประเภท อาจทำให้ งานช้า เครื่องพัง หรือเสียต้นทุนซ่อมแบบไม่จำเป็น

ยิ่งถ้าคุณเป็น บริษัทก่อสร้าง ผู้รับเหมา หรือคลังสินค้าที่มีโปรเจกต์หลากหลาย คุณคงรู้ดีว่า การซื้อเครื่องมือครบทุกชนิดอาจไม่คุ้มในระยะยาว การเลือกใช้บริการ เช่าเครื่องมือก่อสร้างคุณภาพสูงจากผู้ให้บริการแบบ One-Stop Service อย่าง 'เร้นท์ (ประเทศไทย)' จึงเป็นทางเลือกที่ทั้ง ประหยัด คุ้มค่า และคล่องตัว บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับ ประเภทของสว่านไฟฟ้า ที่เหมาะกับงานก่อสร้างแต่ละรูปแบบ 

ทำไมการเลือก "สว่านไฟฟ้า" ที่เหมาะสมกับประเภทงานก่อสร้างถึงสำคัญ?

ในการก่อสร้าง การเจาะพื้น ผนัง หรือโครงสร้างต่าง ๆ เป็นขั้นตอนที่ต้องอาศัย เครื่องมือสว่านไฟฟ้าที่มีความเหมาะสม เพื่อให้งานออกมามีคุณภาพ ปลอดภัย และประหยัดแรงงาน
 แต่บริษัทหลายแห่งมักเจอปัญหา เช่น
  • ใช้สว่านผิดประเภท ทำให้งานเสียหาย
  • สว่านพังระหว่างใช้งานเพราะไม่รองรับโหลดงานจริง
  • เปลี่ยนอุปกรณ์บ่อย เสียเวลา เสียต้นทุน
ดังนั้น การเลือกสว่านที่เหมาะกับงาน จึงสำคัญอย่างยิ่ง โดยเฉพาะหากคุณเป็นบริษัทที่กำลังรับโปรเจกต์ก่อสร้างขนาดกลางหรือใหญ่
เลือกเครื่องมือสว่านไฟฟ้าอย่างไรให้เหมาะกับงานก่อสร้างแต่ละประเภท

ประเภทของสว่านไฟฟ้า และการใช้งานให้เหมาะสม

ในงานก่อสร้างหรือช่างทั่วไป การเลือกใช้สว่านไฟฟ้าให้เหมาะสมกับประเภทงานที่ทำ ถือเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง เพราะสว่านแต่ละชนิดถูกออกแบบมาเพื่อรองรับภาระงานที่แตกต่างกัน ทั้งในแง่ของวัสดุที่ต้องเจาะ พื้นที่การใช้งาน และความสะดวกในการเคลื่อนย้าย เราสามารถจำแนกสว่านไฟฟ้าออกได้เป็น 5 ประเภทหลัก ๆ ดังนี้

1. สว่านกระแทก (Impact Drill)
เหมาะสำหรับงานเจาะผนังปูนหรือคอนกรีตเบา ตัวเครื่องมีฟังก์ชันกระแทกที่ช่วยให้สามารถเจาะวัสดุที่แข็งพอสมควรได้รวดเร็วและง่ายดาย เหมาะกับงานติดตั้งทั่วไป เช่น แขวนของหรือเดินท่อบนผนัง

2. โรตารี่ (Rotary Hammer Drill)
สว่านชนิดนี้ถูกออกแบบมาให้รองรับ “งานหนัก” เช่น การเจาะคอนกรีตเสริมเหล็ก แรงกระแทกของโรตารี่สูงกว่าสว่านกระแทก และเหมาะสำหรับงานโครงสร้างที่ต้องการความแม่นยำและกำลังเครื่องสูง

3. สว่านเจาะเหล็ก/ไม้
ใช้สำหรับงานโครงสร้างทั่วไป เช่น เจาะไม้ เหล็ก หรือแผ่นโลหะ ตัวเครื่องมักใช้งานได้หลากหลายและอเนกประสงค์ เป็นเครื่องมือพื้นฐานที่ควรมีติดไว้ในทุกไซต์งาน
เลือกเครื่องมือสว่านไฟฟ้าอย่างไรให้เหมาะกับงานก่อสร้างแต่ละประเภท
4. สว่านไร้สาย (Cordless Drill)
ตอบโจทย์สำหรับพื้นที่แคบหรือไม่มีแหล่งจ่ายไฟ สว่านไร้สายให้ความคล่องตัวสูง พกพาง่าย ใช้งานไว เหมาะกับงานติดตั้งภายใน เช่น งานตกแต่ง งานเฟอร์นิเจอร์ หรือภายในอาคาร

5. สว่านเจาะคอร์ริ่ง (Core Drill)
สำหรับงานเจาะที่ต้องการ “ความแม่นยำสูงและขนาดใหญ่” เช่น การเจาะรูฝังท่อร้อยสายไฟ งานระบบประปา หรือระบบแอร์ สว่านชนิดนี้สามารถเจาะพื้นหรือผนังที่มีความหนาได้ดีมาก และนิยมใช้ในงานระบบอาคาร


ทำไมต้องเช่าเครื่องมือกับ “เร้นท์ (ประเทศไทย)

การซื้อเครื่องมือเองอาจไม่คุ้มเสมอไป โดยเฉพาะหากใช้เพียงระยะสั้น หรือมีหลายประเภทงานที่ต้องเปลี่ยนเครื่องมือบ่อย การเลือกใช้บริการ เช่าเครื่องมือก่อสร้างจากผู้เชี่ยวชาญ จึงกลายเป็นทางออกที่ดี

ข้อดีที่คุณจะได้รับ
  • มีเครื่องมือให้เลือกหลากหลาย ครอบคลุมทุกประเภทงานก่อสร้าง
  • เครื่องมือผ่านการตรวจสอบคุณภาพก่อนส่งมอบทุกชิ้น
  • มีทีมผู้เชี่ยวชาญให้คำปรึกษาการเลือกเครื่องมือที่เหมาะกับหน้างานจริง
  • บริการจัดส่งถึงไซต์งานทั่วประเทศ ตรงเวลา
  • ลดต้นทุน ไม่ต้องลงทุนซื้อ/ซ่อมเครื่องมือเอง
  • เหมาะสำหรับทั้งบริษัทใหญ่และผู้รับเหมาเริ่มต้น
หากคุณเป็น บริษัทก่อสร้าง หรือ ผู้รับเหมาที่ต้องรับมือกับงานหลากหลายประเภท อย่ามองข้ามความสำคัญของการเลือกเครื่องมือที่เหมาะกับหน้างาน เพราะนอกจากจะเพิ่มประสิทธิภาพแล้ว ยังช่วยลดปัญหาและต้นทุนในระยะยาว

และถ้าคุณกำลังมองหาพาร์ทเนอร์เรื่องเครื่องมือก่อสร้างที่ครบจบในที่เดียว เร้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด พร้อมให้บริการคุณด้วยเครื่องมือคุณภาพ พร้อมทีมสนับสนุนที่เข้าใจภาคสนามจริง
เลือกเครื่องมือสว่านไฟฟ้าอย่างไรให้เหมาะกับงานก่อสร้างแต่ละประเภท
บริษัท เร้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด สาขาที่ให้บริการทั่วประเทศ  ติดต่อสาขาใกล้คุณ ให้เราช่วยดูแลธุรกิจคุณอย่างมืออาชีพ เรามีสาขาครอบคลุมทั่วประเทศ พร้อมทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการเช่าระบบและโซลูชันครบวงจร พร้อมให้คำปรึกษาอย่างจริงใจ และใกล้ชิดธุรกิจของคุณมากที่สุด
สำนักงานใหญ่ (กรุงเทพฯ)
ศูนย์บริการหลัก ดูแลครอบคลุมทุกโซลูชัน พร้อมทีมผู้เชี่ยวชาญทุกแผนก
เบอร์โทร 02-017-7200
สาขาชลบุรี
ตอบโจทย์ธุรกิจใน EEC อย่างครอบคลุม พร้อมบริการแบบครบวงจร
เบอร์โทร 033-048-248
สาขาบ่อวิน
ใกล้นิคมฯ หลายแห่ง เดินทางสะดวก พร้อมบริการเชิงลึกสำหรับภาคอุตสาหกรรม
เบอร์โทร 038-959-343
สาขามาบตาพุด
ครอบคลุมโซนอุตสาหกรรมหนัก พร้อมทีมงานที่เข้าใจธุรกิจคุณ
เบอร์โทร 033-017-791
สาขาสมุทรปราการ
ใกล้กรุงเทพฯ และท่าเรือ ตอบโจทย์ธุรกิจโลจิสติกส์และโรงงาน
เบอร์โทร 02-136-7104
สาขาสมุทรสาคร
โซนโรงงานผลิตและอุตสาหกรรมอาหาร พร้อมบริการรวดเร็ว
 เบอร์โทร 034-861-020
สาขารังสิต
ใกล้โซนธุรกิจ-การศึกษา เหมาะกับธุรกิจ SMEs และสตาร์ทอัพ
เบอร์โทร 02-090-2623
บริษัท เร้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด
หรือ ติดต่อเราได้ที่ 
Tel: 02-017-7200
Line Official:   @rent_thailand

เลือกสาขาที่ใกล้คุณ แล้วติดต่อทีมงาน Rent เราพร้อมให้คำปรึกษาและบริการครบวงจรสำหรับทุกความต้องการของท่าน

ขอใบเสนอราคา

แบบฟอร์มสำหรับ บริษัท เร้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด เท่านั้น !

แชร์บทความ หรือข่าวสาร

Facebook
Line
Mail

บทความที่เกี่ยวข้อง