ในวันนี้ เราจะพามาดูกันว่า โกดังให้เช่ากับคลังสินค้าให้เช้านั้นมีกี่ประเภท แบบไหนบ้าง ราคาค่าเช่าประมาณเท่าไหร่ สถานที่โกดังและคลังสินค้าควรตั้งอยู่บริเวณใด และควรเลือกโกดังให้เช่าและคลังสินค้าให้เช่าอย่างไร ตามไปอ่านกันได้เลยครับกับ 5 ข้อควรรู้เกี่ยวกับโกดังให้เช่าและคลังสินค้าให้เช่า
1.ภาพรวมของโกดังให้เช่าและคลังสินค้าให้เช่าในประเทศไทย
ตลาดโกดังให้เช่าและคลังสินค้าให้เช่าในประเทศไทย พบว่ามีพื้นที่ให้เช่าอยู่ที่ประมาณ 3.5-4ล้านตารางเมตร มีอัตราการเช่าเฉลี่ยอยู่ที่ 80-90 เปอร์เซ็นต์ อีกทั้งดีมานและซัพพลายของตลาดโกดังคลังสินค้าให้เช่ายังมีประมาณเพิ่มขึ้นมากขึ้นในทุกๆปี ซึ่งสะท้อนให้เห็นค่านิยมและเป็นที่ต้องการของอสังหาให้เช่าประเภทนี้ได้เป็นอย่างดี โดยส่วนหนึ่งได้รับอานิสงค์มาจากการเติบโตอย่างรวดเร็วของตลาด E-Commerce ในประเทศไทย เนื่องจากบริษัทเหล่านี้นิยมเช่าโกดังหรือคลังสินค้าไว้เป็น Distribution Center เพื่อทำการจัดเก็บสินค้า คัดแยกและจัดส่งสินค้าไปให้กับผู้บริโภคทั่วประเทศ
โกดังให้เช่าและคลังสินค้าให้เช่านั้นนิยมตั้งอยู่ใกล้กรุงเทพและปริมณฑลซึ่งเป็นตลาดขนาดใหญ่เพื่อความสะดวกในการกระจายและขนส่งสินค้าไปทั่วประเทศ อีกทั้งยังนิยมตั้งอยู่ใกล้กับสนามบินและท่าเรือน้ำลึกเพื่อความสะดวกในการนำเข้าและส่งออกสินค้า ส่วนจังหวัดที่เป็นที่นิยมและมีปริมาณโกดังให้เช่าและคลังสินค้าให้เช่ามากเป็นอันดับต้นๆ นั้นได้แก่ จังหวัดสมุทรปราการ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จังหวัดชลบุรี และจังหวัดระยอง
2.รูปแบบและขนาดอาคารโกดังให้เช่าและคลังสินค้าให้เช่า
โกดังให้เช่าและคลังสินค้าให้เช่าในตลาดส่วนใหญ่นั้นจะมีขนาดตั้งแต่ 500 ตารางเมตร จนถึงขนาด 5000 ตารางเมตร โดยมีรูปแบบอาคาร 2ประเภทดังนี้
อาคารแบบ Attached
อาคารโกดังให้เช่าและคลังสินค้าให้เช่าแบบ Attached คือ อาคารขนาดใหญ่ที่กั้นแบ่งให้เช่าเป็นห้องๆ โดยใช้ผนังเดี่ยวกันเหมือนกับทาวน์เฮ้าส์ มักจะนิยมสำหรับโกดังให้เช่าและคลังสินค้าให้เช่าขนาดเล็กตั้งแต่ 500 – 2,000 ตารางเมตร ที่ต้องการใช้พื้นที่ภายนอกอาคารไม่มาก ข้อดีหลักของอาคารแบบนี้คือราคาค่าเช่าที่ถูกกว่า ส่วน ข้อเสียนั้นก็คือมีพื้นที่ภายนอกอาคารที่น้อยกว่าและในส่วนของความเป็นส่วนตัวเพราะต้องใช้บริเวณภายนอกและผนังร่วมกับโกดังคลังสินค้าของบริษัทอื่นๆ
อาคารแบบ Detached
อาคารโกดังให้เช่าและคลังสินค้าให้เช่าแบบ Detached หรือแบบ Stand-alone คืออาคารโกดังคลังสินค้าให้เช่าที่มีพื้นที่หรือรั้วโดยรอบ คล้ายรูปแบบของบ้านเดี่ยว ทำให้โกดังและคลังสินค้าให้เช่าแบบนี้มีพื้นที่ใช้สอยภายนอกที่กว้างกว่าแบบ Attached และมีความเป็นส่วนตัวมากกว่าด้วยการที่ตัวอาคารเองไม่ได้ติดกับโกดังคลังสินค้าของบริษัทอื่นๆ อีกทั้งยังมีพื้นที่หรือรั้วกันระหว่างกันอีกด้วยครับ โดยส่วนใหญ่มักจะนิยมสำหรับโกดังและคลังสินค้าให้เช่าที่มีขนาดตั้งแต่ 2,000 ตารางเมตรขึ้นไป ข้อดีของอาคารแบบนี้ก็คือพื้นที่ใช้สอยและพื้นที่จอดรถที่มากกว่า อีกทั้งยังมีความเป็นส่วนตัวมากกว่าอีกด้วย ส่วนข้อเสียคือ ส่วนใหญ่อาคารแบบ Detached จะมีราคาเช่าที่แพงกว่าเพราะมีพื้นที่ใช้สอยที่มากกว่า
3.ราคาค่าเช่าของโกดังและคลังสินค้าในประเทศไทย
ราคาค่าเช่าส่วนใหญ่นั้นจะคิดเป็นต่อตารางเมตรต่อเดือน โดยงาอยู่ที่ประมาณ 130-170 บาทต่อตารางเมตร ขึ้นอยู่กับสถานที่ตั้งที่โกดังและคลังสินค้าให้เช่าๆนั้นตั้งอยู่ เช่น บริเวณโดยรอบและภาคตะวันออกของกรุงเทพมหานครได้แก บริเวณเขตลาดกะบัง บริเวณจังหวัดสมุทรปราการ บริเวณถนนบางนาตราด จะมีราคาค่าเช่าที่สูงกว่าบริเวณอื่นๆเนื่องจากอยู่ติดกับ กรุงเทพฯ และ สนามบินสุวรรณภูมิ อีกทั้งยังอยู่ไม่ไกลจากท่าเรือคลองเตยและแหลมฉบัง ทำให้สะดวกเป็นอย่างมากในการขนส่งและกระจายสินค้าไปทั่วประเทศ
4.ประโยชน์ของการเช่าโกดังและคลังสินค้า
ข้อดีของการเช่าโกดัง คลังสินค้านั้นมีหลายข้อด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นการใช้เงินทุนที่น้อยกว่าการซื้อหรือสร้าง ความสะดวกสบายในการใช้งาน การประหยัดค่าซ่อมแซมบำรุงรักษา เป็นต้น แต่ข้อดีที่เด่นชัดที่สุดก็คือ ความสะดวกรวดเร็วในการย้ายสถานที่หรือเพิ่มพื้นที่การจัดเก็บสินค้า
5.ข้อแนะนำในการเลือกโกดัง คลังสินค้าให้เช่า
ในปัจจุบันนี้ เราสามารถหาข้อมูลคลังสินค้าให้เช่าและโกดังให้เช่าได้อย่างง่ายดายบนอินเตอร์เน็ต ท่านสามารถเลือกดูโกดัง คลังสินค้าที่ตรงกับการใช้งานสำหรับธุรกิจของท่าน เช่น ตัวอาคาร ฟังก์ชั่นต่างๆ ขนาดสำนักงาน รูปแบบการขึ้นลงสินค้า การรับน้ำหนักของพื้นที่อาคาร เป็นต้น
โดยสรุปแล้วตลาดโกดังให้เช่าและคลังสินค้าให้เช่าในประเทศไทยกำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ โดยส่วนหนึ่งได้อานิสงค์มาจากการเติบโตอย่างรวดเร็วของตลาด E-commerce ในประเทศไทย เนื่องจากบริษัทเหล่านี้มักใช้การเช่าเพื่อการใช้งาน จากความนิยมนี้ทำให้ปัจจุบันมีโกดัง คลังสินค้าให้เช่าอย่างมากมาย ท่านสามารถเลือกได้ตามที่ตั้ง ขนาด และ ฟังก์ชั่นการใช้งานที่เหมาะสมที่สุดกับธุรกิจของท่านได้เลยครับ
ที่มา :proindsolutions
