ค้นหา
5 เทคนิคการทำ "โปรโมชั่น" ให้น่าสนใจและมีประสิทธิภาพ

5 เทคนิคการทำ "โปรโมชั่น" ให้น่าสนใจและมีประสิทธิภาพ

การทำโปรโมชั่นเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการสร้างความน่าสนใจและเพิ่มโอกาสในการขายสินค้าของคุณ เนื่องจากการโปรโมชั่นถือเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่สำคัญในการสร้างความตื่นเต้นและดึงดูดความสนใจของลูกค้า นอกจากนี้ โปรโมชั่นยังช่วยให้ลูกค้ามีความคุ้นเคยและสามารถกล้าตัดสินใจทดลองใช้สินค้าของคุณได้ง่ายขึ้นนั่นเอง

5 เทคนิคการทำ "โปรโมชั่น" ให้น่าสนใจและมีประสิทธิภาพ มีดังนี้

แผนการตลาด

1.ตั้งเป้าหมายในการทำโปรโมชั่น 

การตั้งเป้าหมายในการทำโปรโมชั่นเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้คุณสร้างแผนการตลาดที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพ เพื่อช่วยเพิ่มยอดขายและสร้างความสุขให้กับลูกค้าของคุณ ดังนั้น นี่คือขั้นตอนที่คุณสามารถทำเพื่อตั้งเป้าหมายในการทำโปรโมชั่นได้ดียิ่งขึ้น

  • วิเคราะห์ตลาด

ศึกษาตลาดและความต้องการของลูกค้าของคุณ โดยใช้ข้อมูลจากการสำรวจผู้บริโภค การวิเคราะห์แนวโน้มของตลาด และข้อมูลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อทำให้คุณสามารถทราบถึงความต้องการของลูกค้าและเลือกโปรโมชั่นที่เหมาะสมกับกลุ่มลูกค้านั้นๆ

  • กำหนดเป้าหมายการขาย

กำหนดเป้าหมายการขายที่ต้องการให้กับโปรโมชั่นของคุณ ซึ่งจะช่วยให้คุณตัดสินใจเกี่ยวกับปริมาณการลดราคาและปริมาณการผลิตที่จำเป็น

  • สร้างแผนการตลาด

สร้างแผนการตลาดที่เหมาะสมกับเป้าหมายของคุณ และออกแบบโปรโมชั่นที่เหมาะสมกับกลุ่มลูกค้าและสินค้าของคุณ

  • วางแผนการดำเนินงาน

กำหนดแผนการดำเนินงานที่สำคัญในการจัดการโครงการหรือธุรกิจ เพื่อให้มีความเป็นไปได้ที่จะบรรลุวัตถุประสงค์ตามที่กำหนดไว้อย่างมีประสิทธิภาพ ถูกต้อง และชัดเจน
แผนการตลาด

2. กำหนดงบประมาณ 

การกำหนดงบประมาณในการจัดทำโปรโมชั่นเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้คุณสามารถเลือกทำโปรโมชั่นได้ตามความเหมาะสมและสอดคล้องกับงบประมาณที่มีอยู่ ดังนั้น การกำหนดงบประมาณนี้จึงควรทำตามขั้นตอนดังนี้

  • วางแผนการทำโปรโมชั่น

ก่อนที่จะกำหนดงบประมาณในการทำโปรโมชั่น ควรวางแผนการทำโปรโมชั่นให้รอบคอบ ซึ่งรวมถึงการกำหนดเป้าหมายของการทำโปรโมชั่น ซึ่งอาจเป็นการลดราคาสินค้า หรือให้สิทธิประโยชน์ต่างๆ ที่ลูกค้าจะได้รับ เช่น แถมสินค้า ฟรีค่าจัดส่ง หรือลดราคาพิเศษ เป็นต้น

  • กำหนดงบประมาณ

หลังจากที่ได้วางแผนการทำโปรโมชั่นไว้แล้ว ต้องกำหนดงบประมาณที่เหมาะสม โดยพิจารณาจากกำไรที่คาดหวังจะได้รับ รวมถึงต้นทุนในการทำโปรโมชั่นนี้ด้วย เพื่อจะได้ตั้งงบประมาณที่เหมาะสมและไม่ทำให้เกิดขาดทุน

  • ตรวจสอบงบประมาณ

หลังจากที่ได้กำหนดงบประมาณไว้แล้ว ควรตรวจสอบว่างบประมาณที่กำหนดนั้นสอดคล้องกับสิ่งที่ต้องการทำและเป้าหมายของการทำโปรโมชั่นหรือไม่ 

แผนการตลาด

3. การเลือกประเภทโปรโมชั่น

การเลือกประเภทโปรโมชั่นที่เหมาะสมต้องพิจารณาจากหลายปัจจัย เช่น กลุ่มลูกค้าที่คุณต้องการจะเข้าถึง สินค้าหรือบริการที่คุณต้องการโปรโมชั่น วัตถุประสงค์ของการทำโปรโมชั่น รวมถึงงบประมาณที่คุณมีอยู่ด้วย ซึ่งประเภทโปรโมชั่นที่สามารถใช้ได้แก่

  • ส่วนลดราคา

ลูกค้าจะได้รับส่วนลดราคาสินค้าหรือบริการ เช่น ลดราคาสินค้า 10%, 20% หรือซื้อครบจำนวนเงินก็ได้รับส่วนลด

  • แถมสินค้า

ลูกค้าจะได้รับสินค้าฟรีเมื่อซื้อสินค้าหรือบริการที่คุณกำหนด เช่น ซื้อสินค้าครบ 1,000 บาท แถมสินค้า A ฟรี

  • แต้มคะแนนสะสม

ลูกค้าจะได้รับแต้มคะแนนสะสมเมื่อซื้อสินค้าหรือบริการ และสามารถนำแต้มคะแนนมาแลกของรางวัลได้

  • คูปอง

การมอบคูปองส่วนลดให้กับลูกค้า อาจจะเป็นคูปองส่วนลดแบบเป็นใบๆ หรือคูปองส่วนลดออนไลน์ ในการแจกคูปอง เช่น ซื้อครบตามเงื่อนไข จะได้คูปองส่วนลด 10% 

แผนการตลาด

4. การตั้งเงื่อนไขโปรโมชั่น

การตั้งเงื่อนไขโปรโมชั่นเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้โปรโมชั่นของคุณเป็นไปอย่างราบรื่น โดยการตั้งเงื่อนไขโปรโมชั่นควรประกอบไปด้วยหลักการดังนี้

  • ชัดเจนและเข้าใจง่าย

เงื่อนไขของโปรโมชั่นควรจะเข้าใจง่ายและชัดเจนต่อลูกค้า เพื่อลดความสับสนและการเสียเวลาของลูกค้าในการตรวจสอบ

  • เป็นไปตามกฎหมาย 

เงื่อนไขของโปรโมชั่นควรเป็นไปตามกฎหมายและเงื่อนไขของบริษัทเพื่อป้องกันการกระทำผิดกฎหมายและปัญหาทางกฎหมายอื่นๆ

  • มีระยะเวลา

การกำหนดเวลาในการใช้โปรโมชั่นจะช่วยให้ลูกค้ามีความกระตือรือร้นในการใช้โปรโมชั่นของคุณ

  • มีเงื่อนไขเฉพาะ

การกำหนดเงื่อนไขของโปรโมชั่นควรเป็นเงื่อนไขที่เฉพาะเจาะจงและเหมาะสมกับสินค้าหรือบริการที่คุณกำลังโปรโมต

แผนการตลาด

5. การวัดผล หรือประเมินผลการทำโปรโมชั่น 

เป็นขั้นตอนสำคัญที่จะช่วยให้ผู้จัดการหรือผู้ดูแลโปรโมชั่นได้รับข้อมูลเพื่อปรับปรุงหรือพัฒนาโปรโมชั่นในอนาคต โดยปกติแล้วการวัดผลโปรโมชั่นจะคำนวณจากตัวชี้วัด (KPIs) ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้สำหรับการประเมินผลการทำโปรโมชั่น เช่น

  • ยอดขาย

การเปรียบเทียบยอดขายก่อนและหลังการทำโปรโมชั่น เพื่อดูว่าโปรโมชั่นนั้นมีผลในการเพิ่มยอดขายหรือไม่

  • อัตราการซื้อกลับ

การวัดอัตราการซื้อกลับนี้จะช่วยให้ธุรกิจหรือร้านค้าได้ทราบว่าลูกค้าที่ได้รับการบริการหรือซื้อสินค้ามีความพึงพอใจกับธุรกิจหรือไม่ และมีความเชื่อมั่นในสินค้าหรือบริการที่ธุรกิจหรือร้านค้านั้นให้มากน้อยเพียงใด ซึ่งจะส่งผลต่อการตัดสินใจของลูกค้าว่าจะกลับมาใช้บริการอีกหรือไม่ และจะช่วยให้ธุรกิจหรือร้านค้าสามารถปรับปรุงเพื่อเพิ่มความพึงพอใจและเชื่อมั่นในตลาดได้ในอนาตค


ทั้งหมดนี้ ถือเป็นการทำโปรโมชั่นให้มีความเหมาะสมและมีประสิทธิภาพมากที่สุด ที่สามารถช่วยให้สื่อสารกับบริโภคหรือผู้รับสารได้เป็นอย่างดี และสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างรวดเร็ว และหากคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังสนใจในการออกแบบไม่ควรพลาดที่จะเข้ามายัง Website เพื่อติดต่อบริษัทที่ให้บริการออกแบบนั้นๆ หรือสามารถติดตามข่าวสารที่น่าสนใจได้ผ่านช่องทาง  Facebook  ที่ให้บริการโดยตรงของทาง  At-Once  เนื่องจากเราได้ทำการรวบรวมรายชื่อบริษัทผลิตและออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่เหมาะสำหรับผู้ที่สนใจบริการออกแบบโดยเฉพาะ ซึ่งมั่นใจได้เลยว่าการทำโปรโมชั่นด้วยวิธีนี้คุณจะได้ผลลัพธ์ที่ดีอย่างแน่นอน

ที่มา: www.punpro.com

แชร์บทความ หรือข่าวสาร

Facebook
Line
Mail