อีกหนึ่งประเภทของคลังสินค้า ที่กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ประกอบการที่ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการ นำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ หรือ ส่งออกสิ้นค้าไปต่างประเทศ คลังสินค้าที่เอ่ยถึงนี้ ก็คือคลังสินค้าทัณฑ์บน (Bonded Warehouse) นั้นเองครับ ซึ่งคลังสินค้าทัณฑ์บนนี้ให้ประโยชน์ต่อผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องกับการนำเข้า ส่งออก ในเรื่องของการพักสินค้า และ การละเว้น หรือ ชะลอการจ่ายภาษีอากร ซึ่งจะสามารถช่วยลดต้นทุน และ ประหยัดค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับภาษีให้กับทางผู้ประกอบการได้เป็นอย่างมาก โดยในครั้งนี้ทางบทความก็ได้รวบรวมเอารายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องราวดังกล่าวได้มาฝากกันครับ
1. คลังสินค้าทัณฑ์บนคืออะไร
คลังสินค้าทัณฑ์บน หรือ หลายคนเรียกอีกอย่างว่า โกดังทัณฑ์บน เป็นพื้นที่ที่ใช้ในการเก็บสินค้านำเข้าโดยไม่ต้องชำระภาษีอากรทั้งขาเข้า และ ขาออก ได้รับอนุญาตตามกฎหมายว่าด้วยศุลกากร พื้นที่นี้จะรองรับการจัดเก็บสินค้านานถึง 2 ปี หรือ มากกว่า โดยที่จะต้องยื่นคำร้องต่อกรมศุลกากร โดยจะชำระภาษีอากรก็ต่อเมื่อมีการนำสินค้าออกจากคลังสินค้าทัณฑ์บน ซึ่งจะแตกต่างจากโดยปกติ ที่เวลานำเข้าสินค้ามาจากต่างประเทศ จะต้องไปนำสินค้าออกจากโกดังการท่าเรือ และ จ่ายภาษีอากร ภายในเวลาไม่เกิน 2 เดือน 15 วัน จึงช่วยเพิ่มโอกาสต่างๆทางการค้าได้มาก ทำให้โกดังทัณฑ์บน เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่จะช่วยอำนวยความสะดวก และ ประหยัดค่าใช้จ่ายทางด้านภาษีอากรให้กับทางผู้ประกอบการ
2. คลังสินค้าทัณฑ์บน เก็บสินค้าประเภทไหนบ้าง
ในส่วนของประเภทสินค้าที่สามารถเก็บอยู่ในโกดังทัณฑ์บนได้ แบ่งออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่
2.1 สินค้าสำเร็จรูปนำเข้า
2.2 สินค้ากึ่งสำเร็จรูปนำเข้า
2.3 วัตถุดิบนำเข้า โดยปกติแล้ว สินค้านำเข้าเหล้านี้ จะต้องมีการชำระภาษีอากรตามกฎหมายกำหนด แต่เมื่อถูกเก็บไว้ในคลังสินค้าทัณฑ์บน การชำระภาษีก็จะถูกละเว้นไปก่อนจนกว่าจะมีการนำเข้าสินค้าออกจากคลังทัณฑ์บน โดยข้อบังคับดังกล่าวเป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับผู้ประกอบการที่จะต้องนำเข้าสินค้าครับ
3. ประเภทของคลังสินค้าทัณฑ์บน/โกดังทัณฑ์บน
3.1 ละเว้นภาษีอากรขาเข้า และ ขาออก โดยปกติทั่วไปแล้ว การนำเข้า หรือ ส่งออกสินค้า จะต้องทำการชำระภาษีอากรตามกฎหมายกำหนด แต่ถ้าหากใช้บริการคลังสินค้าทัณฑ์บน ภาษีนำเข้าจะถูกละเว้น โดยสินค้าจะสามารถเก็บอยู่ในโกดังได้ 2 ปี และ ยิ่งถ้าหากเป็นการนำเข้าสินค้า เพื่อสดออกสินค้าไปยังประเทศอื่น ก็แปลว่าผู้ประกอบการจะไม่ต้องนำสินค้าออกมาจากโกดังเพื่อมาไว้ในร้านค้าแต่อย่างใด แต่สามารถที่จะนำสินค้านั้นมาพักไว้ที่คลังสินค้าทัณฑ์บนเพื่อรอการส่งได้ ทำให้ไม่ต้องมีการเสียภาษี
3.2 ลดข้อจำกัดในการนำเข้าของล็อตใหญ่ การนำเข้าของล็อตใหญ่จำนวนมากๆ ย่อมถูกกว่าการรับสินค้าที่ละน้อยๆ สามารถที่จะลดต้นทุนให้ต่ำลงมาได้มากกว่าการนำเข้าของที่จำนวนน้อย แต่ปัญหาก็คือภาษีที่จะต้องจ่ายมากตามไปด้วย สำหรับผู้ประกอบการที่มีเงินหมุนเวียนไม่มากพอ จะได้รับผลกระทบในจุดนี้โดยตรง เพราะต้องจ่ายภาษีอากรจำนวนมากเพื่อนำของออกจากคลังสินค้าท่าเรือ แต่การนำไปเก็บไว้ที่คลังสินค้าทัณฑ์บน จะช่วยลดภาระในจุดนี้ได้ เพราะสามารถที่จะนำเข้าสินค้าล็อตใหญ่ๆได้โดยไม่จำเป็นต้องนำสินค้าออก และ เสียภาษีอากรในครั้งเดียว โดยนำสินค้าไปพักไว้ที่คลังสินค้าทัณฑ์บนก่อน จากนั้นเมื่อถึงเวลาจะเอาสินค้าออกจากคลัง ก็เอาออกทีละเล็กน้อย ตามที่จะขายให้แก่ลูกค้า เนื่องจากคลังสินค้าสามารถเก็บได้นานถึง 2 ปี
3.3 ช่วยยืดเวลาในการหาลูกค้า กรณีที่มีการนำเข้าสินค้าปริมาณเยอะๆ หรือ ล็อตใหญ่มาก แต่ยังหาลูกค้าได้ไม่เพียงพอ การเก็บสินค้าเอาไว้ในโกดังทัณฑ์บน จะช่วยให้มีเวลาในการหาลูกค้าได้เป็นเวลา 2 ปีเต็ม โดยที่ยังไม่ต้องชำระภาษีอากรก่อน เพราะคลังสินค้ารองรับการเก็บสินค้าเป็นเวลา 2 ปี จากนั้นก็ทำการนำเข้าสินค้าออกจากคลังทัณฑ์บน และ ชำระภาษีอากรไปตามปริมาณที่ลูกค้าของท่านผู้ประกอบการสั่งซื้อ เพื่อขายให้กับลูกค้าทีละล็อต โดยไม่จำเป็นต้องเอาออกครั้งเดียวจบพร้อมกับจ่ายภาษีอากรจำนวนมาก จึงช่วยเพิ่มระยะเวลาในการหาลูกค้าได้เป็นอย่างดีครับ ทั้งหมดนี้ก็ถือว่าเป็นข้อควรรู้เกี่ยวกับคลังสินค้าทัณฑ์บน ซึ่งเกี่ยวข้องกับผู้ประกอบการที่ ทำธุรกิจเกี่ยวกับการนำเข้า และ ส่งออกโดยเฉพาะ
โกดังทัณฑ์บน ยังมีการแบ่งประเภทออกเป็น 3 ประเภทด้วยกัน ได้แก่3.1 คลังสินค้าทัณฑ์บนเพื่อเก็บของในคลังสินค้าทัณฑ์บน
3.2 คลังสินค้าทัณฑ์บนเพื่อแสดง และ ขายของที่เก็บในคลังสินค้าทัณฑ์บน
3.3 คลังสินค้าทัณฑ์บนเพื่อผลิต ผสม ประกอบ บรรจุ หรือ ดำเนินการด้วยวิธีอื่นใดกับของที่เก็บในคลังสินค้าทัณฑ์บน
4. ทำไมต้องใช้บริการคลังสินค้าทัณฑ์บน
4.1 ละเว้นภาษีอากรขาเข้า และ ขาออก โดยปกติทั่วไปแล้ว การนำเข้า หรือ ส่งออกสินค้า จะต้องทำการชำระภาษีอากรตามกฎหมายกำหนด แต่ถ้าหากใช้บริการคลังสินค้าทัณฑ์บน ภาษีนำเข้าจะถูกละเว้น โดยสินค้าจะสามารถเก็บอยู่ในโกดังได้ 2 ปี และ ยิ่งถ้าหากเป็นการนำเข้าสินค้า เพื่อสดออกสินค้าไปยังประเทศอื่น ก็แปลว่าผู้ประกอบการจะไม่ต้องนำสินค้าออกมาจากโกดังเพื่อมาไว้ในร้านค้าแต่อย่างใด แต่สามารถที่จะนำสินค้านั้นมาพักไว้ที่คลังสินค้าทัณฑ์บนเพื่อรอการส่งได้ ทำให้ไม่ต้องมีการเสียภาษี
4.2 นำเข้าของล็อตใหญ่จำนวนมากๆ ย่อมถูกกว่าการรับสินค้าที่ละน้อยๆ สามารถที่จะลดต้นทุนให้ต่ำลงมาได้มากกว่าการนำเข้าของที่จำนวนน้อย แต่ปัญหาก็คือภาษีที่จะต้องจ่ายมากตามไปด้วย สำหรับผู้ประกอบการที่มีเงินหมุนเวียนไม่มากพอ จะได้รับผลกระทบในจุดนี้โดยตรง เพราะต้องจ่ายภาษีอากรจำนวนมากเพื่อนำของออกจากคลังสินค้าท่าเรือ แต่การนำไปเก็บไว้ที่คลังสินค้าทัณฑ์บน จะช่วยลดภาระในจุดนี้ได้ เพราะสามารถที่จะนำเข้าสินค้าล็อตใหญ่ๆได้โดยไม่จำเป็นต้องนำสินค้าออก และ เสียภาษีอากรในครั้งเดียว โดยนำสินค้าไปพักไว้ที่คลังสินค้าทัณฑ์บนก่อน จากนั้นเมื่อถึงเวลาจะเอาสินค้าออกจากคลัง ก็เอาออกทีละเล็กน้อย ตามที่จะขายให้แก่ลูกค้า เนื่องจากคลังสินค้าสามารถเก็บได้นานถึง 2 ปี
4.3 ช่วยยืดเวลาในการหาลูกค้า กรณีที่มีการนำเข้าสินค้าปริมาณเยอะๆ หรือ ล็อตใหญ่มาก แต่ยังหาลูกค้าได้ไม่เพียงพอ การเก็บสินค้าเอาไว้ในโกดังทัณฑ์บน จะช่วยให้มีเวลาในการหาลูกค้าได้เป็นเวลา 2 ปีเต็ม โดยที่ยังไม่ต้องชำระภาษีอากรก่อน เพราะคลังสินค้ารองรับการเก็บสินค้าเป็นเวลา 2 ปี จากนั้นก็ทำการนำเข้าสินค้าออกจากคลังทัณฑ์บน และ ชำระภาษีอากรไปตามปริมาณที่ลูกค้าของท่านผู้ประกอบการสั่งซื้อ เพื่อขายให้กับลูกค้าทีละล็อต โดยไม่จำเป็นต้องเอาออกครั้งเดียวจบพร้อมกับจ่ายภาษีอากรจำนวนมาก จึงช่วยเพิ่มระยะเวลาในการหาลูกค้าได้เป็นอย่างดีครับ ทั้งหมดนี้ก็ถือว่าเป็นข้อควรรู้เกี่ยวกับคลังสินค้าทัณฑ์บน ซึ่งเกี่ยวข้องกับผู้ประกอบการที่ ทำธุรกิจเกี่ยวกับการนำเข้า และ ส่งออกโดยเฉพาะ
ที่มาproindsolutions