เราอาจกล่าวได้ว่าโฆษณากับการทำธุรกิจเป็นของคู่กัน นักธุรกิจใช้โฆษณาเป็นเครื่องมือในการสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมาย แต่ปัจจุบันรูปแบบการสื่อสารเปลี่ยนแปลงไป นักธุรกิจหันมาสนใจโฆษณาออนไลน์เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในวงการธุรกิจขนาดเล็กหรือธุรกิจ SMEs
ธุรกิจ SMEs เป็นธุรกิจขนาดเล็กถึงกลาง มีความเป็นอิสระ มักมีต้นทุนในการดำเนินงานและจำนวนบุคลากรไม่มาก การเลือกโฆษณาผ่านทางสื่อหลักจึงอาจไม่ใช่คำตอบที่ดีที่สุด เนื่องจากค่าใช้จ่ายสูงและมีความเสี่ยงในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งแตกต่างจากโฆษณาออนไลน์ที่มีลักษณะและข้อดีเหมาะกับรูปแบบของธุรกิจ SMEs มากกว่า
โฆษณาออนไลน์ คือ คำจำกัดความง่ายๆ ของโฆษณาออนไลน์ คือ โฆษณาที่ต้องรับชมผ่านการใช้อินเทอร์เน็ต เช่น Facebook, Instagram, Twitter, Google และ YouTube
ทำไมต้องโฆษณาออนไลน์ เป็นวิธีที่ตอบรับการใช้ชีวิตของคนยุคใหม่ได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นความนิยมในการใช้สื่อ Social Network หรือการใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่เชื่อมต่อกับโลกออนไลน์ได้ตลอดเวลาไม่จำกัดสถานที่ นอกจากนี้มันยังมีข้อดีที่สร้างโอกาสเติบโตให้กับธุรกิจ SMEs อีกด้วย โดยสามารถสรุปได้ดังต่อไปนี้
1. ต้นทุนต่ำเมื่อเทียบกับโฆษณาสื่อหลัก
เราสามารถกำหนดงบประมาณได้ตามที่ต้องการและสามารถ ลงโฆษณา ได้อย่างต่อเนื่องขึ้นอยู่กับงบประมาณที่เราตั้งไว้ ส่งผลให้นักธุรกิจสามารถจัดสรรงบประมาณและจำกัดงบในแต่ละครั้งที่ลงโฆษณา ทั้งนี้จะแตกต่างจากการโฆษณาผ่านสื่อหลักที่จะมีราคาขั้นต่ำและจำนวนครั้งในการลงโฆษณา
2. สามารถวัดผลตอบรับได้
การวัดผลช่วยให้นักธุรกิจประเมินคุณภาพของโฆษณาได้อย่างชัดเจนและนำข้อบกพร่องมาปรับแก้ได้ทันท่วงที เช่น การวัดจำนวนครั้งที่แสดงผล (Impression) จำนวนครั้งที่ถูกกด (Clicks) และการวัดผลตอบแทนจากการลงทุน (Return on Investment: ROI) เป็นต้น
3. เข้าถึงเป้าหมายได้ตรงกลุ่มและไร้ขีดจำกัด
การเข้าถึงด้วยโฆษณาออนไลน์ถือว่าได้เปรียบกว่าโฆษณาสื่อหลักมาก สามารถเลือกกลุ่มเป้าหมายได้ตามต้องการ โดยการกำหนดลักษณะ คุณสมบัติ และความสนใจของกลุ่มเป้าหมายให้เหมาะสมกับผลิตภัณฑ์หรือบริการของตนเอง นอกจากนี้กลุ่มเป้าหมายยังสามารถรับชมโฆษณาได้ตลอด 24 ชั่วโมง แน่นอนว่าเป็นการเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงของกลุ่มเป้าหมายให้มากยิ่งขึ้น
ที่มา: www.smeone.info
ที่มา: www.nipa.co.th